พิสดารทางกฎหมาย – การสะสางคดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ที่สร้างความกังขาให้กับประชาชนทั่วทั้งสังคม ควรจะต้องดำเนินการตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างถึงที่สุด หาคำตอบและสร้างความถูกต้องตรงไปตรงมาให้เกิดขึ้น เพื่อไม่เป็นดังข้อครหาที่พูดกันไปทั่วว่า คุกมีไว้ขังเฉพาะคนจนเท่านั้น คนร่ำรวยหลุดรอดลอยนวล

คดีนี้ กล่าวขวัญกันว่า น่าจะเข้าทำนองปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ต่างไปจากคดีทางการเมืองที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาชนมาแล้วหลายต่อหลายเหตุการณ์

ฝ่ายผู้มีอำนาจ มีช่องหลุดรอดแทบทุกคดี

ถ้าคดีรถเฟอร์รารี่ชนด.ต.ถึงแก่ความตาย เข้าข่ายคนมีสตางค์ย่อมมีอภิสิทธิ์

แล้วคดีทางการเมือง ก็เข้าข่ายฝ่ายมีอำนาจ ก็มีอภิสิทธิ์เช่นเดียวกัน

ที่น่าตลกขบขันในสายตาประชาชน วันนี้รัฐบาลระดมมือกฎหมายเข้ามาตรวจสอบคดีบอส ทายาทมหาเศรษฐี

ขณะที่มือกฎหมายหลายราย ก็คือผู้ที่ร่วมกันสร้างปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย ในคดีความทางการเมืองมาหลายคดีแล้วเช่นเดียวกัน!

วันนี้ชาวบ้านเขาสนทนากันเฮฮาว่า ความเร็วรถเฟอร์รารี่ ทำไมจึงมีการคำนวณเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

จาก 170 กว่า สามารถลดฮวบลงเหลือแค่ 70 กว่าได้

ดูแล้วก็ไม่น่าจะต่างกับสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์อันสุดพิสดาร ในการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมานั่นเอง!

คำนวณความเร็วรถลูกมหาเศรษฐีอย่างขัดสายตาคนดู

กับคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ก็พิสดารอย่างไม่อายสายตาประชาชนมิใช่หรือ!?

ถ้าหากสังคมไทย ออกมามีท่าทีชัดเจนต่อกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวในทุกเรื่อง

ทำให้เป็นมาตรฐานสูงอย่างเช่นคดีลูกมหาเศรษฐีในขณะนี้ ย่อมมีผลให้กระบวนการยุติธรรมคงจะเที่ยงธรรมไปทุกเรื่องมากกว่านี้

องค์กรอิสระบางองค์กร ไม่กลายเป็นองค์กรที่เสื่อมทรุด ขาดความเชื่อถือยอมรับเช่นขณะนี้!

เมื่อจะพูดถึงกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องยึดความตรงไปตรงมา ยึดบรรทัดฐานของพยานหลักฐานและตัวบทกฎหมาย

ไม่ใช่พร้อมจะเฮไปด้วย ถ้าหากกระบวนการที่บิดเบี้ยวนั้น เป็นการเล่นงานฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ใช้อคติทางการเมืองเป็นกรอบการแสดงท่าที

เป็นเช่นนี้เอง จึงทำให้เราสามารถมีบิดาแห่งการยกเว้นข้อกฎหมาย เชิดหน้าชูตาได้

นานวัน ความไม่ตรงไปตรงมาจึงเกิดขึ้นมากมาย ไปทั่วทุกคดีทุกประเภท

เรื่องคดีบอสเฟอร์รารี่ ฮือกันออกมาตรวจสอบเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องดี

แต่ถ้าให้ดีก็ต้องฮือเป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกกระบวนการคดีด้วย!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน