ศึกนอก-ศึกในรัฐบาล การเมืองเริ่มร้อน – คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่เพิ่งประกาศออกมา หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งทั้งหมด 7 ราย คงต้องเร่งทำงานแบบไม่ต้องหายใจหายคอ เพราะถือว่าเป็นการจัดคนมาทดแทนรัฐมนตรีที่ลาออกไปอย่างล่าช้าเนิ่นนาน

โดยเฉพาะทีมงานรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่ว่างเว้นมาเป็นเวลาถึง 3 สัปดาห์

ทั้งที่เรากำลังอยู่ในช่วงวิกฤตหนักจากโควิด นำมาสู่สภาพเศรษฐกิจที่ทรุดหนัก คนตกงานจำนวนมาก ปากท้องประชาชนเต็มไปด้วยความหิวโหย

รัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ มาจากคนนอกในโควตาของนายกฯ

มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เป็นรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ และควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ขณะที่นายปรีดี ดาวฉาย จากนายแบงก์ใหญ่ มานั่งเป็นรัฐมนตรีคลัง

ถือเป็น 2 มืออาชีพ ที่ไม่ได้มาจากการเมือง คงเป็นที่จับตามองอย่างมาก จะสามารถฉุดสภาพเศรษฐกิจที่ปักหัวลงให้ดีขึ้นได้หรือไม่!?

ส่วนในโควตาพรรคพลังประชารัฐ ที่อุตส่าห์ออกแรงเขย่ากันจนทีม 4 กุมารกระเด็นออกไป

ปรากฏว่าหัวหน้าพรรค คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกฯ เหมือนเดิม

เลขาธิการพรรคคนใหม่ นายอนุชา นาคาศัย ได้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งต้องถือว่าเก้าอี้เล็กไปหน่อย

แกนนำอีกราย นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แต่ก็มีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ

ทั้งที่ไม่ใช่กระทรวงใหญ่ ไม่ใช่กระทรวงที่มีรัฐมนตรีช่วยมาก่อน!?!

เช่นนี้คงพอจะมองออกว่า การเมืองภายในรัฐบาลจะร้อนขึ้นมาอย่างไร

ความจริงรายชื่อที่ประกาศออกมาไม่ได้ผิดคาด เพียงแต่เมื่อประกาศเป็นทางการ

ก็คงเหมือนการเอาทิงเจอร์ราดรดลงบนบาดแผลทางใจ!

ก่อนหน้านี้ที่แกนนำในพลังประชารัฐมุ่งหวัง เช่น หัวหน้าพรรคไปนั่งมหาดไทย แกนนำสำคัญต้องได้พลังงาน ระดับเลขาฯ พรรคต้องกระทรวงใหญ่

ลงเอยก็เป็นดังที่เห็น

จากนี้ไปคงต้องจับตาสถานการณ์ในสภา ด้วยเป็นจุดรอยต่อที่สำคัญของอำนาจพรรคการเมืองกับฝ่ายรัฐบาล

ขณะที่การเมืองในรัฐบาลกับพรรครัฐบาลคงคุกรุ่น

ส่วนสถานการณ์ภายนอก คลื่นเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ก็ยังร้อนแรงต่อเนื่อง

เท่ากับจะต้องรับมือทั้งศึกภายในและภายนอกเลยทีเดียว!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน