อำนาจส.ว.ตั้งนายกฯระเบิดเวลาใกล้นาทีระทึก – เป็นอันว่าจุดสำคัญที่สุดจุดหนึ่งของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ก็คือ การให้ส.ว.250 เสียง มีสิทธิโหวตแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเท่ากับกำหนดตัวผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ล่วงหน้าก่อนเลือกตั้ง เท่ากับตัดโอกาสของพรรคการเมืองอื่นๆ ต้องพรรคเดียวพรรคนั้น ที่มีชื่อแคนดิเดตนายกฯคนนั้นคนเดียว จึงจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
แล้วก็ทำได้สำเร็จจริงๆ ในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562
แต่ผลก็คือ ได้กลายเป็นจุดตาย จุดทำลายตัวเอง
กลายเป็นชนวนให้เกิดการต่อต้านรัฐธรรมนูญ และลุกลามถึงการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาลปัจจุบัน
เป็นประเด็นปลุกให้ปัญญาชนคนรุ่นใหม่ ลุกขึ้นมา ต่อต้านรัฐธรรมนูญที่เขียนอย่างเอารัดเอาเปรียบ
ขนาดเด็กนักเรียนยังรับไม่ได้
ตั้งคำถามผ่านการทำพานไหว้ครูว่า 250 ส.ว. มีน้ำหนักเหนือเสียงของประชาชนหลายล้าน ได้หรือ!?
ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวในวันนี้ของนักเรียนนักศึกษา ไร้พลัง ไร้เดียงสา ไร้น้ำหนัก ไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องหวั่นไหวกระนั้นหรือ
ในความเป็นจริง มีการนัดชุมนุมหลายจุดหลายพื้นที่ แทบทุกวัน เคลื่อนไหวต่อเนื่องในขอบเขตทั่วประเทศ
เป็นประเด็นที่ผู้มีอำนาจต้องประเมินให้ดี
แต่ดูเหมือนเหล่าส.ว.เองบางส่วน เริ่มรู้ดีว่า เป็นกระแสที่ไม่อาจนิ่งเฉยได้
เริ่มออกมาขานรับจากส.ว.บางราย ว่าจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจส.ว.ในการโหวตนายกฯ!!
ส่วนการยอมรับเหมือนยอมถอยของส.ว.นั้น จะเป็นเพียงแค่เพื่อซื้อเวลา เพียงแค่ปลอบประโลมเยาวชนให้เย็นลง หรือยอมรับอย่างจริงใจ ก็ต้องคอยดูกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆ ต้องยอมรับความจริงว่า การสร้างกติกาการเมืองที่เอารัดเอาเปรียบ ผ่านรัฐธรรมนูญ ผ่านการ เลือกตั้งเมื่อปี 2562
คือการสร้างความขุ่นเคืองใจในหมู่ประชาชน วงกว้าง
โดยเยาวชนนักเรียนนักศึกษา กลุ่มคนในวัยเร่าร้อน ไม่ยอมเก็บความไม่พึงพอใจนั้นเอาไว้เฉยๆ
กลายเป็นแฟลชม็อบทั่วประเทศ!!
เมื่อตอนที่เปิดให้มีการเลือกตั้ง คนรุ่นใหม่แห่กันออกมาใช้สิทธิล้นคูหา หวังได้พรรคการเมืองแนวใหม่ สร้างการเมืองให้ก้าวรุดหน้า
ประชาชนร่วมกันเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายทำให้ลืมตาอ้าปากได้อย่างเป็นรูปธรรม
เลือกกันมาแทบตาย เจอ 250 ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งมาเป็นตัวกำหนดชี้ขาด
มันก็คือระเบิดเวลา ที่เข็มนาฬิกาเคลื่อนใกล้ถึงจุดระเบิดเต็มที ถ้าไม่รีบปลดชนวนเดี๋ยวนี้!
