ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

วันนี้ 13 ตุลาคม ตรงกับวันตำรวจของไทยเรา ซึ่งก่อตั้งมายาวนานอยู่คู่กับสังคมมากว่าร้อยปีแล้ว ท่ามกลางอารมณ์ความรู้สึกระหว่างตำรวจกับชาวบ้านที่มีครบทุกรส ทั้งรัก ทั้งชัง ทั้งหวาน ทั้งชื่น ทั้งขื่นและขม

เมื่อไม่กี่วันก่อน นิด้าโพลเพิ่งเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “1 ปี ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา”

ผลปรากฏว่า ความประทับใจของประชาชนต่อผลงานในช่วง 1 ปีของผบ.ตร.คนนี้

ออกมาโดยมีเปอร์เซ็นต์ประทับใจสูงกว่าไม่ประทับใจ ในทุกๆ หัวข้อ

ถือว่าสอบผ่าน

ได้แต่หวังว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะสามารถสร้างความประทับใจให้ชาวบ้านเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยยังมีอายุราชการอีกหลายปี

เพราะยิ่งมีความประทับใจ ก็หมายความว่า ทุกข์สุขของประชาชนจะได้รับการดูแลจากตำรวจเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง!

วาระวันตำรวจปีนี้ มาพร้อมกับข่าวใหญ่ เขย่าไปทั่วทั้งเมืองหลวง

นั่นคือข่าวการรับมือคาร์บอมบ์ ที่ขึ้นมาจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปลายทางคือกทม.และปริมณฑล

ข่าวนี้ไม่ใช่แค่รายงานข่าวแบบปกปิดแหล่งข่าว แต่มีรองผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์รองรับชัดเจน

จึงทำให้เกิดข้อวิเคราะห์ไปต่างๆ นานา ว่าทำไมกล้ายืนยันข่าวที่ส่งผลกระทบอย่างรอบด้านเช่นนี้

เลยทำให้เกิดข้อวิเคราะห์เชิงลึกว่า น่าจะหวังผลอันซับซ้อนในด้านอื่นๆ ชนิดที่คุ้มค่าหากต้องแลกกับผลลบต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว!?!

แต่มองอีกด้านได้ว่า การสอดส่องคาร์บอมบ์ จำต้องอาศัยหูตาประชาชน การเปิดเผยข่าวสารให้รับรู้ทั่วกัน ก็เพื่อจะได้ช่วยเหลือกันทั้งสังคมนั่นเอง

ถึงที่สุดแล้ว หากมองแค่ประเด็นไฟใต้ล้วนๆ นั่นก็ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ไฟใต้ขยายตัวไปไกลมากด้วยเช่นกัน

เพราะเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนนั้นชัดเจนแล้วว่า เป็นทีมจากชายแดนใต้แน่นอน

วันนี้มีการข่าวบอกว่า จะบุกต่อเข้ามาถึงกทม.และปริมณฑล

แน่นอนว่า ตำรวจก็ต้องโชว์ความสามารถรับมือให้ได้ ป้องกันให้ได้ เป็นช่วงวาระวันตำรวจเสียด้วย!

แต่พร้อมกัน ในส่วนของตำรวจต้องถือว่าเป็นการแก้ปลายเหตุ

การแก้อย่างถึงที่สุด ต้องดับไฟที่ต้นเพลิง นั่นคือปัญหาความขัดแย้งใน 3 จังหวัดใต้ อันนำมาสู่การต่อสู้กับอำนาจรัฐ

อันเป็นเรื่องนโยบายการแก้ปัญหาระดับรัฐบาล

ดูแล้วก็ต้องหน้าชาไปตามกัน เพราะเพิ่งจะก่อตั้งครม.ส่วนหน้าลงไปแก้ปัญหา

ปรากฏว่าผู้ก่อความไม่สงบสวนทางขึ้นมาก่อเหตุในพื้นที่ครม.ส่วนกลางเสียเลย!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน