คดีเหมืองอัครา – เพิ่มมาอีกรายแล้ว ตัวการชักใยปลุกปั่นม็อบนักเรียนนักศึกษา นั่นคือ คดีเหมืองทองอัครา ซึ่งกำลังเป็นข่าวกระหึ่ม เพราะมีการตรวจพบการขอใช้เงินงบประมาณกว่า 111 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีกับบริษัท คิงส์เกต

แม้ว่าคดีนี้จะยืดเยื้อมาหลายปี แต่มีแนวโน้มที่จะตัดสินคดีกันในไม่นานนี้ ซึ่งน่าระทึกขวัญมาก

ที่สำคัญ เรื่องนี้โผล่ขึ้นมากระตุกอารมณ์ประชาชนทั้งสังคมอีก เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงที่กำลังพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญพอดี

เลยพบข้อมูลสำคัญว่า สำนักงบประมาณและกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เสนอของบประมาณจำนวน 111,115,700 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด

จนเกิดข้อสรุปว่า นี่ไงราคาค่าใช้จ่ายของการใช้ อำนาจม.44

อำนาจม.44 ของรัฐบาลรัฐประหารคสช. ที่ใช้จัดการกับเหมืองนี้ จนโดนฟ้องกลับ

แล้วเมื่อตรวจย้อนไปยังการใช้งบประมาณใน 2 ปีก่อนหน้านี้ ก็มีการเบิกงบประมาณค่าสู้คดีนี้มาตลอด

รวมกับที่กำลังขอในปี 64 อย่างน้อยก็ 388 ล้านบาท

ยังไม่รวมที่จะต้องจ่ายอีกถ้าหากแพ้คดี ก็คงอีกหลายหมื่นล้าน

ประเด็นสำคัญของคดีนี้ ก็คือ นี่เป็นพิษภัยของการใช้อำนาจม.44 นั่นเอง!?

อำนาจม.44 ก็คือดาบอาญาสิทธิ์ที่มาพร้อมกับการรัฐประหาร

นี่จึงเป็นคดีประจานผลพวงด้านร้ายจากการรัฐประหารอีกกรณีหนึ่ง!

หนักหนาสาหัสกว่านั้น ในที่ประชุมกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณางบประมาณ ได้ซักถามงบของกระทรวงอุตสาหกรรมในเรื่องเงินสู้คดีนี้

ยังได้ข้อมูลอีกว่า จากกรณีที่มีประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนเรื่องสารพิษ โดยตรวจพบในเลือดของชาวบ้าน จึงมีการตั้งคณะกรรมการจาก 4 กระทรวงร่วมกันตรวจสอบ

ระหว่างนั้นคณะกรรมการตรวจสอบ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ปัญหาที่เกิดกับประชาชนนั้น เกิดจากเหมืองหรือไม่!?!

แต่เนื่องจากรัฐบาลขณะนั้นต้องการปกป้องสุขภาพของประชาชน จึงเลือกใช้อำนาจม.44 เข้าดำเนินการ

อ่านรายงานนี้แล้ว ยิ่งน่าเป็นห่วงในการต่อสู้คดี

เพราะมีอำนาจพิเศษ และเลือกใช้เนื่องจากฉับไวรวดเร็ว แต่เมื่อเป็นข้อพิพาทกับบริษัทต่างชาติ จึงกลายเป็นการ ฟ้องร้องระหว่างประเทศ

นี่เป็นอีกข้อสรุปบทเรียนการรัฐประหาร

อำนาจรัฐประหาร อ้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการเมือง แต่กลับยิ่งสร้างปัญหา

อำนาจรัฐประหารใช้แก้ปัญหาเหมือง ก็สร้างปัญหาตามมาอีกเช่นกัน!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน