ชกไม่มีมุม : ดูม็อบนักศึกษาอดีตเรียนรู้เยาวชนยุคปัจจุบัน
ดูม็อบนักศึกษาอดีตเรียนรู้เยาวชนยุคปัจจุบัน : คนที่ห่างไกลช่วงเวลาที่ขบวนการนักศึกษายุคปี 2516-2519 เคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ผลักดันในทุกปัญหาของประเทศชาติบ้านเมือง ตั้งแต่ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของคนเดินดิน ปัญหาราคาพืชผลของเกษตรกรชาวนา ค่าแรงกรรมกร ไปยันระดับขับไล่ฐานทัพอเมริกาพ้นไปจากประเทศไทย
ก็อาจจะไม่เข้าใจว่า พลังของคนในวัยเรียนวัยหนุ่มสาวนั้น คึกคักหนักแน่นขนาดไหน
พอเห็นเด็กนักเรียนนักศึกษาลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวในวันนี้ ก็อาจจะมองผิดๆ ว่า คนรุ่นนี้ยังเด็กมาก ไม่น่าจะรู้เรื่องราวอะไรนัก คงโดนชักจูงมา และคงไปได้ไม่กี่น้ำ!?
โดยลืมมองไปว่า เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 นั้นก็คือ การลุกขึ้นมาของนักศึกษา นำประชาชนต่อสู้จนได้ประชาธิปไตยมาสู่สังคมไทย
จากนั้นตลอด 3 ปี 2516-2519 ช่วงประชาธิปไตยเบ่งบาน ก็ยุคที่ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เป็นแกนนำหลัก ในการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ย้อนศึกษาดูให้ดีจะพบว่า ปัญญาชนในวัยเรียนเหล่านี้ รอบรู้กว้างขวาง และพลังของคนในวัยนี้ เต็มไปด้วยความร้อนแรงอย่างมาก
การกลับมาของขบวนการนักศึกษาในปี 2563 นี้ ก็ทั้งรู้มากรู้ลึกและมากด้วยพลังในการชุมนุมเคลื่อนไหว ไม่แตกต่างกัน!
สังคมไทยในยุคหลัง อาจจะเห็นภาพม็อบเสื้อเหลือง ม็อบนกหวีด ว่าต้องเป็นม็อบแบบนี้ มีอำนาจนอกระบบหนุนหลัง จึงจะสามารถเอาชนะรัฐบาลได้
หรือมองม็อบเสื้อแดง ซึ่งเป็นคนรากหญ้า อดทนแข็งแกร่ง จึงสามารถชุมนุมยืดเยื้อยาวนานได้
ถ้าศึกษาเฉพาะม็อบในรอบกว่า 10 ปีนี้ ก็จะไม่รู้ว่าม็อบนักเรียนนักศึกษานั้น มีพลังมากขนาดไหน!?
จะไม่เข้าใจว่า คนในวัยเรียน โดยเฉพาะในยุคดิจิตอล สามารถค้นคว้าหาความจริงได้รอบโลก กรองข้อมูลว่าจริงหรือปลอมได้อย่างเชี่ยวชาญ
ทั้งเป็นวัยที่ไม่มีภาระอะไรผูกพัน ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังในเรื่องครอบครัว
อยู่ลำพัง ไม่ต้องหาเงินเลี้ยงใคร ไม่ต้องคอยผ่อนบ้านผ่อนรถอะไร
ไม่ต้องห่วงใยว่าที่กำลังต่อต้านรัฐบาล จะกระทบกับธุรกิจการค้าอะไร ไม่มีผลประโยชน์สัมปทานอะไรมาผูกมัดทำให้จุดยืนไขว้เขวโลเล
เป็นวัยที่มากด้วยพลังและบริสุทธิ์แท้จริง
ดังนั้นอย่าสรุปเอาง่ายๆ ว่า ต้องมีท่อน้ำเลี้ยงมีนักการเมืองชักใย!?!
ถ้าศึกษาพลังนักศึกษาในวันที่ 14 ตุลาคม 2516 และที่เคลื่อนไหวต่อมาอีก 3 ปี
จะรู้จักคนวัยนี้กับการเคลื่อนไหวการเมืองมากขึ้น
ทุกวันนี้ที่ออกมาเย้ยว่า ม็อบเด็กอ่อนหัดบ้าง หรือต้องมีนักการเมืองผลักดันอยู่เบื้องหลังบ้าง
มีแต่จะทำให้เหล่านักเรียนนักศึกษาเขาหัวเราะขบขัน
หรือต้องส่ายหน้า ว่าทำไมไม่มีคู่ต่อกรในฝ่ายรัฐบาลที่มีสติปัญญาคู่ควรบ้างเลย!
วงค์ ตาวัน