คิดเป็นวิทยาศาสตร์
ทางออกสังคมไทย
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย….วงค์ ตาวัน
คิดเป็นวิทยาศาสตร์ – ช่วงหยุดยาว 4 วันที่ผ่านมา ผู้คนออกเดินทางท่องเที่ยวกันพอสมควร แต่อีกจำนวนไม่น้อยต้องกัดฟันนอนอยู่กับบ้าน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจยังย่ำแย่ดังที่รู้กันอยู่ รายได้ไม่ล้นหลาม ไม่เหมือนยุคเศรษฐกิจเฟื่องฟู ระยะนี้จึงมีแต่ต้องเก็บเงินเก็บทองเอาไว้ฉลองช่วงปีใหม่โน่นเลย
รัฐบาลจัดหยุดยาวเป็นระยะ หวังคนออกท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ
แต่ปัญหาก็คือ คนจำนวนไม่น้อย ไม่มีเงินทองในกระเป๋าเหลือมากพอจะออกไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั่นเอง
ดังนั้นบรรยากาศหยุดยาว 4 วันที่ผ่านมา ก็พอจะเที่ยวกันคึกคักอยู่บ้าง
โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ
ไปกางเต็นท์นอน หุงหาอาหารกินเองง่ายๆ ช่วยประหยัดงบประมาณได้!
เรื่องการท่องเที่ยวอุทยานฯป่าเขานี่เอง ได้เห็นภาพข่าว ที่เก็บมาจากกระแสในโลกออนไลน์
โดยนักท่องเที่ยวรายหนึ่งซึ่งเดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.เพชรบูรณ์ โพสต์ภาพ ในบรรยากาศตอนช่วงค่ำมืดสลัว ทำให้เห็นบริเวณหลังอาคารเล็กๆ มีอะไรบางอย่างลักษณะสูงๆ แปลกๆ ลักษณะเหมือนเปรตดูน่าขนลุก
แต่ก็เฉลยภาพเงาสูงปริศนานี้ ด้วยการถ่ายภาพในตอนรุ่งเช้า เมื่อมีแสงสว่างสาดส่องให้เห็น
ที่แท้ก็คือเสาสัญญาณที่มีเถาวัลย์ไม้เลื้อยปกคลุมนั่นเอง!
นักท่องเที่ยวเจ้าของภาพที่แชร์กันว่อนในออนไลน์ จึงฝากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้ช่วยสะสางบริเวณเสาสัญญาณดังกล่าว เพื่อจะได้ไม่เกิดภาพปริศนาให้เข้าใจผิดกันอีก
ก็เป็นเรื่องสนุกๆ และให้ข้อเท็จจริงได้อย่างครบถ้วน เป็นวิทยาศาสตร์
คือเอาความจริงในช่วงเช้ามาไขปริศนา จะได้จบข้อสงสัยในทางที่อาจเข้าใจผิดได้
ถ้าสังคมไทยเราเต็มไปด้วยผู้คนที่ค้นหาความจริงตลอดเวลา มีหลักคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ในทุกๆ เรื่อง บ้านเมืองเราจะพัฒนาก้าวหน้า ไม่ถูกหลอกลวงมอมเมา จนหลงเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้
ไม่ว่าจะเรื่องพื้นฐานในสังคม ไปจนถึงเรื่องใหญ่ในระดับการเมือง
หลักความคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ จะพูดจาอะไร จะหลงเชื่อสิ่งใด ก็ต้องผ่านการเห็นข้อเท็จจริงเห็นพยานหลักฐาน ทั้งมีคำอธิบายถึงอนาคตข้างหน้า!
โดยเฉพาะเรื่องอำนาจทางการเมืองนั้น ประชาชนควรตระหนักว่าอำนาจการเมืองต้องอยู่ที่ประชาชนส่วนใหญ่
จะไปหลงเชื่อง่ายๆ ได้อย่างไรว่า ต้องมีประชาธิปไตยแบบไทยๆ ให้ 250 ส.ว.เหนือกว่าอำนาจประชาชน
หรือเมื่อคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาผลักดันให้การเมืองไทยหลุดจากวังวนเดิมๆ และมีอีกฝ่ายออกมาต่อต้าน ปกป้องอดีตเก่าๆ ไว้ไม่ให้เปลี่ยนแปลง
ก็ต้องดูกันที่ข้อเท็จจริง เทียบข้อเสนอกับข้อต่อต้าน ใครเป็นวิทยาศาสตร์มากกว่ากัน ใครสร้างอนาคตได้ดีกว่ากัน
ต้องตัดสินกันที่ความจริง ความพัฒนาก้าวหน้า ไม่ใช่ยึดความเชื่อเดิมๆ ที่พิสูจน์ไม่ได้มากำหนด!