โควิด-ธุรกิจเจ๊ง โจร-ค้ายายิ่งเฟื่องฟู : ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
การระบาดของโควิดรอบใหม่ตั้งแต่ปลายปี 2563 เป็นที่คาดหมายว่าจะส่งผลยาวนานไปตลอดทั้งปี 2564 นี้
ขณะที่โควิดส่งผลกระทบต่อธุรกิจการค้ามาตลอดปี 2563 ดังนั้นต้องเตรียมใจได้เลยว่า เศรษฐกิจในปี 2564 คงยิ่งทรุดหนักซ้ำอีก
ปีที่แล้วก็ยากลำบากด้านเงินทองกันอยู่แล้วปีนี้ปัญหาปากท้องจะยิ่งรุนแรงต่อไป!
แน่นอนว่ารัฐบาลและระบบสาธารณสุข ได้ทุ่มเทแก้ปัญหาโรคระบาดอย่างจริงจัง
แต่อีกด้านต้องคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งการเอาแต่เรียกร้องประชาชนให้รู้จักใช้ชีวิตอย่างพอเพียงด้านเดียว
เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่อยู่บนฐานความจริง!?!
เพราะหนี้สินจากภาวะเศรษฐกิจตลอดปีที่แล้ว สั่งสมหนักหน่วงอยู่แล้ว ปีนี้ยังกระหน่ำซ้ำเติมอย่าง แน่นอน
ถ้าจะย้อนไกลไปกว่านั้น ก็นับตั้งแต่การจัดม็อบต้านรัฐบาลเลือกตั้ง แล้วไม่ยอมเลือกหนทางประชาธิปไตยทำทุกอย่างจนนำไปสู่การรัฐประหาร 2557
จากนั้นมาเศรษฐกิจไทยก็ตกต่ำดำดิ่งมาเรื่อยๆ
ข่าวคนไทยฆ่าตัวตายด้วยพิษเศรษฐกิจเกิดขึ้นมาตลอดหลายปี ไม่รู้กี่ศพต่อกี่ศพ
เตาอั้งโล่กลายเป็นสัญลักษณ์ความตีบตันของชีวิตคนไทยไปแล้ว
อีกส่วนที่หน้ามืดตามัว หันไปทำธุรกิจผิดกฎหมาย เสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางเพราะไม่อยากอดตาย ซึ่งไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง แต่ก็มีคนเลือกทางนี้กันจริง!
อย่างเช่น การไปรับจ้างขนยา ไปขายยาเสพติด ยิ่งทำให้ยานรกเฟื่องฟูไปกันใหญ่ จนล่าสุดยังมีเคนมผงโผล่ออกมาอีก
เป็นความจริงที่ว่า การแก้โควิด ถ้าทำเสียจนเศรษฐกิจเดินไม่ได้ จะเกิดการดิ้นรนหาทางออกแบบผิดๆ เป็นโจร เป็นคนค้ายา
อย่างเช่นเมื่อสองวันที่ผ่านมา เพิ่งมีข่าวตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจอุบลราชธานี จับกุมหนุ่มวัย 38 ขณะขับรถเก๋งมาส่งยาบ้า นับล้านเม็ด
สอบสวนพบว่า เคยเป็นพ่อค้าขายอาหารบุฟเฟต์ทะเล ในนครพนม แต่ร้านเจ๊งเพราะโควิด เลยหันมารับส่งยาบ้าตามคำชักชวนของเพื่อน
แน่นอนการขนยาเสพติดเป็นความผิดมหันต์ ไม่น่าให้อภัย
แต่เมื่อรัฐบาลไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาผลกระทบอาหารทะเลที่คนไม่กล้ากิน หลังเหตุโควิดระบาดตลาดกุ้งมหาชัย จนซีฟู้ดเจ๊งไปทั่วทุกพื้นที่
จนมาเกิดกรณีคนขายอาหารทะเลต้องมาเป็นนักค้ายาเช่นนี้
จะมีใครรู้สึกละอายที่บริหารประเทศชาติจนคนค้าขายปกติธรรมดา ต้องเข้าคุกเพราะค้ายาเช่นนี้หรือไม่!?