คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

3นิ้วพม่า-3นิ้วไทย ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างไทย : ภาพข่าวชาวพม่า โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ วงการแพทย์ ครู ศิลปินดารา ประชาชนทั่วไป ออกมาเดินขบวน ประกาศไม่เอารัฐประหาร เรียกร้องปล่อยออง ซาน ซู จี อย่างไม่หวั่นเกรงอำนาจปืน

ที่สำคัญคือเดินชู 3 นิ้ว สัญลักษณ์อันเป็นสากล ต่อต้านอำนาจเผด็จการ เรียกหาเสรีภาพ

จึงเป็นภาพที่คนไทยคุ้นตา เพราะนักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ของเรา มีการเคลื่อนไหวชู 3 นิ้ว ตลอด 5 เดือนเมื่อปลายปีที่แล้ว

ทั้งประชาชนพม่าและประชาชนไทย กำลังต่อสู้ในเรื่องที่ใกล้เคียงกัน

พม่านั้นคือโดนกองทัพยึดอำนาจกันสดๆ ร้อนๆ

ของไทยยึดอำนาจเมื่อปี 2549 แล้วยึดอำนาจภาค 2 ต่อเนื่องกันในปี 2557 แล้วยังสืบต่ออำนาจจนถึงรัฐบาลปัจจุบัน!

พม่าบอกว่า รัฐบาลพลเรือนโกงเลือกตั้ง

ของไทยบอกว่ารัฐบาลนักการเมืองคอร์รัปชั่น

แล้วขุนทหารทั้งสองประเทศก็ใช้ข้ออ้างเหล่านี้ ลงมือยึดอำนาจเหมือนกัน

พร้อมกับเกิดคำถามว่า ไปกล่าวหานักการเมืองโกง แต่ที่ทำเช่นนี้โกงอำนาจใช่หรือไม่!?

ในการลุกขึ้นต้านรัฐประหารของชาวพม่านั้น ได้รับแรงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ของไทยอย่างแข็งขัน

จนเกิดกระแสในโซเชี่ยลร่วมปลุกการต่อสู้ของพม่าที่ว่า ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างไทย!!

เป็นคำที่บอกให้รู้ถึงประชาธิปไตยที่ถูกครอบงำด้วยอำนาจนอกระบบของไทยเรา

ขณะที่ไทยเราก็ยังต้องชู 3 นิ้วต่อสู้กันต่อไป ส่วนคนพม่าก็ลุกขึ้นมาต่อต้านอำนาจรัฐประหารอย่างฉับพลันทันที ไม่รีรอ

การต่อสู้ของคนทั้งสองประเทศ คงยังต้องเหน็ดเหนื่อยและเผชิญกับอำนาจมืดอย่างดุเดือดเลือดพล่านต่อไป!

แต่เมื่อเห็นคนพม่าออกมาต่อต้านการรัฐประหารอย่างทันที ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าสลดกับเหตุการณ์เมื่อปี 2557 ในบ้านเรา เพราะนั่นเกิดจากการจัดม็อบเพื่อล้มรัฐบาลประชาธิปไตย

ครั้นเมื่อรัฐบาลขณะนั้นยอมยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อเลือกตั้งใหม่ เป็นทางออกตามวิถีประชาธิปไตย

กลับไม่ยินยอม อ้างปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ก็เพราะต้องการให้เกิดรัฐประหาร!!

แล้วการเลือกตั้งในปี 2562 ภายใต้อำนาจของกลุ่มรัฐประหาร 2557 เห็นกันชัดเจนว่าการเมืองน้ำเน่ายิ่งกว่าเก่ามากมาย แล้วไหนล่ะคือการปฏิรูป

คนพม่าเดินขบวนวันนี้ไม่เอารัฐประหาร แต่คนไทยฝ่ายขวาเดินขบวนเมื่อปี 2557 เพื่อให้มีรัฐประหาร

จนเป็นภาระให้คนรุ่นใหม่ของเราลุกขึ้นมาเพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองครั้งใหญ่ในปัจจุบัน!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน