คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

ภาพยิ่งลักษณ์กับวัคซีน – ขณะที่ภายในห้องประชุมสภา พรรคฝ่ายค้านกำลังเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและ 9 รัฐมนตรี โดยประเด็นหนึ่งที่ดุเดือดคือ ความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนโควิด เพื่อฉีดให้กับคนไทย ซึ่งกระทบทั้งการหยุดโรคระบาด และการฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาได้รวดเร็ว

ระหว่างนั้นเอง ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหญิง กำลังนั่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอยู่ที่ดูไบ ก็ว่อนไปทั่วโลกออนไลน์

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลุกขึ้นอธิบายแก้ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านที่ว่า คนไทยได้ฉีดวัคซีนล่าช้ากว่าคนในหลายๆ ประเทศ

ขณะนั้นเอง อดีตนายกฯหญิง ก็โชว์ภาพตัวเองได้รับ วัคซีนป้องกันโควิดแล้ว

พร้อมข้อความ คิดถึงประชาชนคนไทย หวังอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสฉีดวัคซีนในเร็วๆ นี้

เพื่อสามารถเปิดประเทศให้เกิดธุรกิจการค้าได้ โดยเร็ว!!

ภาพนี้จะส่งผลอะไร ย่อมแล้วแต่มุมมองของแต่ละฝ่าย

แต่ส่งผลอย่างแน่นอน

อย่างน้อย สำหรับประชาชนคนไทยที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ฝากความคิดถึงและอวยพรให้ได้มีโอกาสฉีดวัคซีนในเร็วๆ นี้ คงต้องรู้สึกอะไรมากมาย

เกิดข้อเปรียบเทียบถึงความเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีการเปรียบกันบ่อยๆ ระหว่างยุคทักษิณ ยุคยิ่งลักษณ์ มาจนถึงยุคประยุทธ์

ไปจนถึงข้อเปรียบเทียบถึงโอกาสในการได้รับวัคซีนป้องกันโควิดของประชาชนประเทศต่างๆ

ขณะที่หลายประเทศฉีดกันไปแล้ว รวมทั้งที่ดูไบ ถิ่นพำนักของทักษิณและยิ่งลักษณ์!

โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โพสต์อธิบายด้วยว่า สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ได้รับจัดสรรวัคซีนจาก 2 บริษัท คือ ซิโนฟาร์มของจีน และไฟเซอร์ของสหรัฐ-เยอรมัน ฉีดให้กับประชาชนทั้งหมดและอยู่อาศัยที่นี่ทุกคน

รวมทั้งรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังมีวัคซีนสปุตนิคจากรัสเซียในกรณีฉุกเฉิน และเริ่มทดลองใช้วัคซีนแอสตราซิเนกาอีกด้วย

เท่ากับมีวัคซีนถึง 4 เจ้า!

นอกจากนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังระบุด้วยว่า สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ถือเป็นประเทศที่จัดสรรวัคซีนให้ประชากรและผู้อยู่อาศัยในอัตราสูงสุด เมื่อเทียบกับอัตราการฉีดวัคซีนของประเทศอื่นทั่วโลก

โดยยึดหลักให้ความสำคัญอย่างสมดุลต่อการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อและคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศอย่างเท่าเทียมกัน

ผลจากภาพยิ่งลักษณ์ได้ฉีดวัคซีน ยังทำให้หลายคนนึกย้อนไปถึงมุมมองของทักษิณต่อสถานการณ์โควิด ที่เคยนำเสนอมาก่อนหน้านี้

นั่นคือ โควิดต้องป้องกัน ไม่ใช่ควบคุม และการป้องกันคือการเปิดเศรษฐกิจไปพร้อมกันด้วย

โดยข้อเท็จจริงที่คนไทยได้รับทราบจากรัฐบาลก็คือ จะเริ่มได้รับวัคซีนกันในเดือนมิถุนายน

ขณะที่เศรษฐกิจยังคงไม่ฟื้นอีกนาน!!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน