คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
ได้ยินชาวบ้านที่ดูถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ล้อมวงวิพากษ์วิจารณ์กันว่า บางช่วงจังหวะบรรดาดาวประท้วงของฝ่ายรัฐบาลนั้น ขยันขันแข็งอย่างมาก เกินงาม หวังทำลายจังหวะการอภิปรายของฝ่ายค้าน มุ่งทำลายสมาธิของคนที่กำลังพูด
ทีมงานประท้วง 3-4 รายนั้น ดาหน้ากันทำงานอย่างขมีขมัน
สำหรับชาวบ้านเขามองว่า ถ้าเป็นเกมการฟาดแข้งฟุตบอล ก็เหมือนทีมรัฐบาล เน้นวิธีการตัดเกม เน้นปะทะจนล้มจนสะดุดอยู่ตลอดเวลา เพื่อหยุดการทำเกมของทีมฝ่ายค้าน
การใช้วิธีตัดเกมของอีกฝ่ายอย่างไม่จำเป็น หรือเอาแต่ตัดเกมอย่างพร่ำเพรื่อ
ทำให้ภาพรวมของเกมนั้นดูไม่สนุก สร้างความเบื่อหน่ายให้กับประชาชนคนดู
รวมทั้งยังบ่งชี้ว่า ทีมที่เอาแต่ตัดเกม เอาแต่เบรกเกมฝ่ายตรงข้ามนั้น แสดงว่าทีมตัวเองไม่มีฝีมือ ไม่มีความสามารถในการสร้างเกมรุกเพื่อสู้กับ เขาได้!
ขณะเดียวกัน การทำหน้าที่ของส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในสภาชุดนี้ ทำให้ประชาชนคนฟังรู้สึกนึกย้อนถึง คำว่า ปฏิรูปการเมือง
โดยเฉพาะปฏิรูปการเมืองก่อนเลือกตั้ง
เป็นถ้อยคำที่สร้างบาดแผลให้กับการเมืองประเทศไทย
เพราะเจตนาของคำว่าปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ก็คือไม่ต้องการให้มีเลือกตั้ง ซึ่งตะโกนร้องกันกระหึ่มในม็อบนกหวีดเมื่อปี 2557
ถึงที่สุดคือปูทางไปสู่รัฐประหาร จนได้รัฐบาลทหาร มาจนถึงรัฐบาลชุดนี้ พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งมีที่มาเชื่อมโยงกับม็อบนกหวีดที่เรียกหาปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
ภาพในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา เป็นการเมืองที่ปฏิรูปกันแล้วอย่างไร!?!
การประท้วงการอภิปรายของฝ่ายค้าน การลุกขึ้นมาชี้แจงตอบโต้ฝ่ายค้านของรัฐบาล ทำอย่างมีคุณภาพแล้วหรือ
เป็นการเมืองที่ปฏิรูปแล้วหรือ
เอาเข้าจริงๆ นับตั้งแต่ได้รัฐบาลจากการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ล้วนแต่เป็นการเมืองที่น้ำเน่าสุดขีด
เต็มไปด้วยการแจกกล้วย เต็มไปด้วยงูเห่า
การเมืองไทยถอยหลังไปยิ่งกว่ายุคที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา เป็นการเมืองทุนสามานย์เสียอีก
ตอนที่เรียกหาปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง หวังให้การเมืองปฏิรูปจริงๆ
หรือแค่หาวิธีการให้การเมืองเข้าทางตันเพื่อให้รถถังออกมายึดอำนาจเท่านั้นเอง!?
นับจากเลือกตั้งเมื่อปี 2562 การเมืองที่มีคุณภาพใหม่กลับไปปรากฏที่พรรคฝ่ายค้าน
ไปปรากฏที่พรรคใหม่พรรคคนรุ่นใหม่มากกว่า!