มองดูบทเรียนพม่าใกล้เป็นสงครามเต็มตัว – ยอดคนตายในพม่า จากการถูกปราบปรามโดย เจ้าหน้าที่รัฐ เกินกว่าครึ่งพันศพแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าตกใจ เพราะยิ่งเข่นฆ่าประชาชนที่ออกมาประท้วง ยิ่งเพิ่มแรงแค้น ยิ่งลุกฮือออกมาต่อสู้อย่างไม่มีทีท่าจะหยุดยั้งได้

เป็นบทเรียนให้กับผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นพม่า หรือประเทศใกล้ๆ ว่าการใช้อำนาจรุนแรง ไม่ได้ทำให้คนหวาดกลัว ไม่อาจหยุดยั้งคลื่นการต่อสู้ของประชาชนได้

ล่าสุดสื่อมวลชนในพม่า สำนักข่าวเมียนมานาว รายงานว่า ประชาชนที่ทนไม่ไหวจากการถูกไล่ฆ่าฝ่ายเดียว เริ่มเรียกหาการจัดตั้งกองกำลังของประชาชน เพื่อจับอาวุธขึ้นสู้

เป็นไปตามพัฒนาการของสถานการณ์ความรุนแรง ที่เกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก

ถ้ารัฐปราบไม่หยุด สุดท้ายก็กลายเป็นการจับปืนของฝ่ายประชาชน

กลายเป็นสงครามกลางเมืองไปในที่สุด!

จากจุดเริ่ม ประชาชนออกมารวมตัวกันประท้วงต่อต้านรัฐบาล แล้วฝ่ายรัฐไม่ยินยอมรับฟัง ใช้กำลังใช้อำนาจเข้าสลายการประท้วง

ฝ่ายรัฐก็เริ่มจากยิงแก๊สน้ำตา รถฉีดน้ำ ใช้กระบองไล่ทุบตี ไปจนถึงยิงกระสุนยาง ส่วนฝ่ายประชาชนก็เริ่มใช้วัสดุที่พอหาได้ ประดิษฐ์เป็นหนังสติ๊กยิงหิน ไปสู่ระเบิดเพลิง

เมื่อรัฐพัฒนาไปสู่การใช้กระสุนจริง

สุดท้ายประชาชนไม่เพียงไม่สยบยอม กลับเพิ่มขีดการต่อสู้เพื่อเอาคืน เริ่มจะจัดตั้งกองกำลังพร้อมปืน!

คราวนี้ยิ่งรบกันเลือดนอง

เป็นวิถีความรุนแรงที่เกิดมาแล้วให้เห็นในหลายๆ ประเทศ และที่พม่ากำลังจะไปสู่จุดนั้นแล้ว!!

เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ที่ทหารพม่ายึดอำนาจ แล้วชาวบ้านไม่ยอมทน เกิดการประท้วงไปทั่วทุกพื้นที่ ก่อนสถานการณ์ลุกลามไปสู่การเข่นฆ่าชาวบ้านด้วย กระสุนจริง ศพทบทับทวี

คนยิ่งเดือดแค้น ออกมาต่อต้านรัฐในทุกรูปแบบ จนสภาพบ้านเมืองเต็มไปด้วยไฟลุกโชน เป็นดินแดนมิคสัญญี

วันนี้คนพม่าเริ่มกล่าวกับสื่อว่า ลำพังใช้ หนังยางดีดหิน ปืนประดิษฐ์ ธนู และค็อกเทลโมโลตอฟ ไม่เพียงพอแล้ว ต้องตั้งกองกำลังจับปืนสู้แล้ว

ส่วนหนึ่งคนพม่าพยายามจะหนีไปร่วมกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยต่างๆ ที่จับปืนสู้กับทหารพม่าอยู่แล้ว

แต่อีกส่วนที่สู้อยู่ในเมืองต่างๆ เริ่มคิดการตั้งกองกำลังสู้ด้วยอาวุธจริง

พม่ากำลังจะเดินทางไปสู่จุดที่รุนแรงยิ่งขึ้น ใกล้เป็นสงครามเต็มรูปแบบ

ประเทศไทยเราก็เคยผ่านบทเรียน นักศึกษาเข้าป่าจับปืนมาแล้ว

แต่สังคมไทยไม่ค่อยสรุปบทเรียน

ผู้มีอำนาจควรหันไปมองดูพัฒนาการเลวร้ายที่พม่าเอาไว้เพื่อเตือนสติตัวเองให้มากๆ!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน