ระยะนี้ยังมีความพยายามโหมกระแสทำนองว่า ชาติมหาอำนาจแทรกแซงการเมืองไทยด้วยการปลุกปั่นนักเรียนนักศึกษาให้ออกมาเคลื่อนไหว กระทั่งอาจารย์ชาวอเมริกันที่เข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย ก็กลายเป็นสายลับซีไอเอ ผู้คอยชักใย แกนนำเยาวชนคนรุ่นใหม่

ไม่น่าเชื่อว่า ยังคิดกันขนาดนี้ได้!?

ทั้งที่มีปรากฏการณ์ที่พิสูจน์ความจริงได้ง่ายๆ เห็นชัดเป็นวิทยาศาสตร์อธิบายได้อย่างตรงไปตรงมา

หากตั้งสติให้ดี ลดอคติที่ครอบงำจิตใจและสมองลงไป แล้วหาเหตุผลมาพิจารณาก็จะเห็นความจริงในระดับหนึ่งได้ไม่ยาก

นั่นคือ กรณีที่แกนนำคนรุ่นใหม่ กลุ่มราษฎร โดนคุมขังอยู่ในเรือนจำนับสิบราย

ทั้งโดนขังโดยไม่ยอมให้ประกันตัวมานานกว่า 2 เดือนแล้ว

โดนขนาดนี้ ถ้าเด็กเหล่านี้ ไม่มีความคิดเป็นตัวของตัวเอง ถ้าที่ผ่านมาโดนปลุกปั่นชักใยจริง ยังจะยืนหยัดขนาดนี้ได้หรือ!!

คิดให้เป็นเหตุเป็นผลสักหน่อยจะมองออกว่า เด็กอายุไม่มากนัก ถ้าไม่ได้คิดเองทำเอง จะหนักแน่นมั่นคงขนาดนี้ได้อย่างไร








Advertisement

ป่านนี้คงออกอาการ หลุดความจริงออกมาหมดแล้ว

ถ้าถูกหลอกมาจริง คงจะต้องสารภาพสิ้นว่า โดนหลอกมา โดนปั่นหัวมา โดยใครบ้าง แฉกันออกมาสิ้นไส้แล้ว

แต่ความจริงที่เห็นได้ กว่า 2 เดือนมาแล้ว เด็กเหล่านี้มีอาการดังว่าหรือไม่

ยังแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยยืนหยัดมุ่งมั่น ถึงขั้นอดข้าวเพื่อยืนยันว่าที่คิดที่เคลื่อนไหวนั้นถูกต้อง ก็ยังทำ!

ใช้สติใช้สมองคิดดูเถิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับแกนนำคนรุ่นใหม่เหล่านี้ อยู่อย่างไร้สิ้นอิสรภาพ ทุกข์ทรมานกายใจขนาดนี้

มันสอดรับกับที่ไปกล่าวหาว่ามีการชักใยอยู่อีกหรือ

ยังแปลว่าโดนบงการ โดยผู้ใหญ่ โดยซีไอเอ เอฟบีไอ หน่วยราชการลับอเมริกา ได้อย่างไร!?

ที่ตลก ตอนที่คนรุ่นใหม่เหล่านี้ขึ้นเวทีปราศรัย หรือเดินขบวนเคลื่อนไหว ก็คิดกันได้ว่า การอ่านหน้าจอมือถือนั้น คือกำลังอ่านคำสั่งจากคนที่สั่งการ

ทั้งที่ยุคนี้ อะไรๆ ก็อยู่มือถือทั้งนั้น ข้อมูล ประเด็นต่างๆ เดี๋ยวนี้ร้องเพลงงานบวชงานแต่ง เขาก็จ้องเนื้อเพลงจากมือถือ ดูหน้าจอไปก็ร้องไป

แล้ววันนี้เข้าไปอยู่ในที่คุมขังในเรือนจำ คนสั่งการจะสื่อสารกันอย่างไร ยังจะครอบงำได้อย่างไร

เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

แต่ทำไมเด็กเหล่านี้ยังยืนยันความคิดความเชื่อ อดข้าวก็ยังทำได้

นี่คือหลักอธิบายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่เห็นได้ไม่ยาก ขัดแย้งกับทฤษฎีครอบงำบงการอย่างสิ้นเชิง!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน