เสียงเตือนจากผบ.ตร.อย่าซ้ำเติมประชาชน – สถานการณ์ของรัฐบาลที่กำลังซวนเซอย่างหนัก ประชาชนแสดงออกถึงการไม่ยอมรับอย่างรุนแรงและกว้างขวาง สภาพการณ์เช่นนี้ยังส่งผลสะเทือนไปถึงกลไกอำนาจรัฐต่างๆ ถูกมองว่าเป็นมือไม้ของรัฐบาลชุดนี้ ก็พลอยโดนวิพากษ์วิจารณ์จมธรณีไปแทบทุกเรื่อง
เลยมีเสียงเตือนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิดชาวบ้านมากที่สุด มีโอกาสกระทบกระทั่งกันแทบทุกเวลานาทีในแต่ละวัน
ช่วงระยะนี้ บรรดาตำรวจทั้งหลาย จะบังคับใช้กฎหมายอะไร ควรต้องละเอียดรอบคอบมากๆ หน่อย
อย่างเหตุการณ์ที่มีภาพว่อนโซเชี่ยล รถขายไอศกรีมโดนตำรวจจราจรกลางล็อกล้อ แถวหน้าตลาดประชานิเวศน์ 1 ย่านประชาชื่น
เป็นภาพที่ใครเห็นก็รับไม่ได้ ยิ่งในสถานการณ์ที่ชาวบ้านกำลังชิงชังรัฐจากพิษโควิดและวัคซีนเช่นนี้ ยิ่งไปกันใหญ่
เกิดคำถามอื้ออึงว่า ทำตามกฎหมายหรือซ้ำเติมประชาชนที่กำลังยากลำบากกันแน่!?!
ยิ่งเป็นคนขายไอติมแท้ๆ คนหาเช้ากินค่ำ เศรษฐกิจก็ทรุด ทำไมต้องเอาผิดกันจริงจังขนาดนี้
เพราะรถขายไอติม ไม่ใช่รถยนต์ส่วนตัวที่จอดในที่ห้ามจอดแบบจอดทิ้งเอาไว้ยาวนาน
งานนี้ทำเอาตำรวจหูอื้อไปตามๆ กัน
เล่นเอาผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็นั่งไม่ติด สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเร่งด่วน เรื่องมัน ยังไงกันแน่!?
เมื่อได้ข้อเท็จจริง มีการแถลงจากรองโฆษกตำรวจ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนทันที
สรุปว่า เรื่องเริ่มจากตำรวจจราจรรายนั้น ไปล็อกล้อรถแท็กซี่ แล้วฝ่ายแท็กซี่ก็โวยว่า ทีรถไอติมก็จอดอยู่ใกล้กัน ทำไมไม่จับบ้าง ตำรวจก็เลยจำต้องล็อกล้อรถไอศกรีมไปด้วย
รองโฆษกตำรวจ ยังอธิบายด้วยว่า ตำรวจจราจรรายนั้น ก็พยายามลดหย่อนให้แล้ว
โดยปรับรถแท็กซี่ไป 200 บาท ส่วนรถไอติมแค่ 100 บาท ไม่ได้ปรับเต็มอัตรา
พร้อมกับเน้นย้ำว่า ขณะนี้มีนโยบายการบังคับใช้กฎหมายไม่ให้ซ้ำเติมประชาชนช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด กรณีแบบนี้ถ้าพิจารณาแล้วเป็นไปได้ก็ให้ว่ากล่าวตักเตือนก่อน
นโยบายของผบ.ตร.คือ เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด จะไม่เอาการบังคับใช้กฎหมายซ้ำเติมประชาชนอย่างเด็ดขาด!
หวังว่านโยบายของบิ๊กปั๊ด จะเป็นที่เข้าใจในหมู่ตำรวจ ผู้ปฏิบัติ
อะไรที่ไม่จำเป็นก็อย่าใช้กฎหมายลักษณะซ้ำเติมประชาชนอีกเลย
ยิ่งช่วงที่กระแสรัฐบาลกำลังตก โดนชาวบ้านชิงชังอย่างหนักเช่นนี้
ตำรวจยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เบามือกันหน่อย
ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ปรับจับความผิดจราจร ไปถึงการสลายม็อบ!!
วงค์ ตาวัน
