ปิดกั้นการวิจารณ์อีกเรื่องร้อนของรัฐบาล – นักร้องสาววัยรุ่น “มิลลิ” ที่เพิ่งเป็นข่าว เข้ารับทราบข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี รัฐบาล ในปัญหาโควิด โดยผู้แจ้งความคือทีมงานในทำเนียบรัฐบาลนั่นเอง

มีนักร้องศิลปินดารารุ่นใหม่อีกจำนวนมากที่ออกมา คอลเอาต์รัฐบาล ถูกยื่นร้องให้ตรวจสอบเพื่อเอาผิดอยู่เช่นกัน

ส่วนมิลลินั้น หลังจากขึ้นโรงพักนางเลิ้ง มีคลิปที่เด็กคนนี้บอกเล่าถึงการต้องตกเป็นผู้ต้องหา และทำไมจึงต้องพูดต้องเรียกร้อง คนแห่เข้าไปดูคลิปนี้กันล้นหลาม!

พอดูจบก็ต้องบอกเลยว่า รัฐบาลยิ่งเพลี่ยงพล้ำหนัก

มิลลิบอกว่า ตัวเองอายุแค่ 18 ต้องมีชีวิตอยู่ในประเทศนี้อีกยาวนาน จึงต้องการอนาคตที่ดี ก็เลยต้องพูด!!

แค่ประโยคนี้ก็จบ ได้ข้อสรุป พร้อมกับเห็นหน้าพวกแก่เฒ่าความคิดล้าหลัง ที่ยังผูกขาดอำนาจเอาไว้ในมือ ปิดกั้นอนาคตของประเทศ และของประชาชน

โดยเฉพาะของคนรุ่นใหม่ที่เขายังต้องอยู่ไปอีกยาวนาน จึงต้องการประเทศที่มีอนาคตกว่านี้

กระบวนการดำเนินคดีข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณาต่อดารานักร้องเด็กรุ่นใหม่ ยังเดินหน้าต่อไป

ไปจนถึงการโหมข้อหาเฟกนิวส์ เพื่อเอาผิดเสียงวิจารณ์ นายกฯ และรัฐบาลในเรื่องโควิด กำลังเร่งเครื่องกันอย่างหนัก

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมากำชับเองต้องเร่งปราบเฟกนิวส์ ไม่ว่าสื่อมวลชน คนดัง หรือเพจต่างๆ

ส่งสัญญาณแบบนี้ มองเห็นบรรยากาศของสังคมไทยนับจากนี้ไปได้ทันที

ระหว่างคำว่าเฟกนิวส์ กับคำว่าปิดปากปิดกั้นเสรีภาพ ปกปิดความผิดพลาดในการจัดหาวัคซีนและการแก้ไขปัญหา จะเป็นหัวข้อสนทนาร้อนแรงไปทั่ว!!

จะเกิดข้อสงสัย ว่ามุ่งปิดกั้นเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์

ทั้งที่มีข้อเท็จจริงคือ ความเดือดร้อนของประชาชนจากโควิดและเศรษฐกิจที่ทรุดหนัก

จะเป็นอีกประเด็นที่รัฐบาลจะตกเป็นจำเลยของสังคม!?!

นอกเหนือจากข้อสงสัยทำไมจึงจัดหาวัคซีนมาล่าช้า และไม่มียี่ห้อที่โลกเชื่อถือและใช้กัน รวมไปถึงข้อสงสัยในด้านประสิทธิภาพการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน

หลายคนบอกว่า อย่าเสียเวลาสั่งหน่วยงานรัฐทั้งหลาย มาทุ่มเทเอาผิดคนข้อหาเฟกนิวส์อยู่เลย

ยิ่งทำด้านนี้ ยิ่งเปิดแนวรบใหม่ ปะทะกับผู้คนที่ไม่ยอมรับการถูกปิดปากให้บานปลายไปอีก

เพราะสิ่งที่รัฐบาลควรจะทำ เป็นการแก้ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด คือ วัคซีน

มีวัคซีนมาให้เร็วให้พร้อมมายี่ห้อดีๆ ทั้งหยุดโควิด ทั้งฟื้นเศรษฐกิจได้เร็ว ผู้คนกลับมามีรายได้ ไม่ต้องไปกู้มาจ่ายเยียวยาอีกด้วย

แก้ต้นเหตุ ไม่ใช่มาวุ่นวายกับปลายเหตุให้ ยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน