ร้อนระอุบนท้องถนนมีแต่จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ – บรรยากาศบ้านเมืองเราเวลานี้ เต็มไปด้วยความอลหม่านบนท้องถนนเกิดขึ้นแทบทุกวัน เสียงปืนกระสุนยาง ควันแก๊สน้ำตา รถฉีดน้ำผสมแก๊ส ทำงานหนักเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะมีการชุมนุมประท้วง ต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด
พร้อมกับสภาพความรุนแรงก็เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ต้องมีปะทะกันทุกครั้ง มีคนบาดเจ็บเสียเลือดเนื้อ มีความเสียหายทรัพย์สิน มีไฟลุกท่วม ทั้งกับรถตำรวจ ป้อมตำรวจ
นับวันอารมณ์ความรู้สึกเกลียดชังกันมีแต่ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น
ส่วนรัฐบาลก็ยังอยู่อย่างเป็นปกติ ไม่สนใจอะไรกับเสียงประท้วงเสียงเรียกร้อง มีม็อบเมื่อไหร่ก็ใช้เจ้าหน้าที่คฝ.ออกไปเผชิญหน้า ไปปะทะกับเด็กไปเรื่อยๆ
ถ้ายังเป็นอยู่เช่นนี้ สถานการณ์ความขัดแย้งแตกแยกในบ้านเมืองจะมีแนวโน้มคลี่คลายได้หรือ!?
ไม่มีทางจะลดระดับลงไปได้หรอก
การใช้อำนาจใช้กฎหมายใช้ทุกกลไกไปจัดการกับเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมรับรัฐบาล จะสามารถหยุดยั้งการต่อสู้การต่อต้านได้หรือไม่
ลำพังการใช้อำนาจและใช้ความหวาดกลัว ไม่อาจทำให้อีกฝ่ายสยบยอมได้
เป็นกฎเกณฑ์ธรรมชาติของสังคมมนุษย์ที่เห็นกันมาแล้วยาวนานจนมีข้อสรุปไปแล้ว
แต่ที่นี่ประเทศไทยไม่เคยหาข้อสรุป และไม่เคยคิดวิธีแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองแบบใหม่ๆ
ความสูญเสียจึงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
ปัญหาการต่อต้านรัฐบาล ที่เริ่มต้นจากประเด็นความ ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โครงสร้างการเมืองไทยเต็มไปด้วยปัญหา
พัฒนามาสู่ความไม่พึงพอใจในเรื่องวัคซีน การหยุดโรคระบาดไม่ได้ และทำให้เศรษฐกิจทรุดหนักไปเรื่อยๆ
ขณะที่เกิดการต่อสู้เรียกร้องจากม็อบต่างๆ รัฐบาล ก็นิ่งเฉยไม่ตอบสนองใดๆ
มิหนำซ้ำยังบริหารจัดการวัคซีนแบบเดิมๆ ต่อไป!!
เช่นนี้แล้วอารมณ์ความรู้สึกต่อต้านรัฐบาลจะลดน้อยลงไปได้อย่างไร มีแต่จะยิ่งขยายตัวร้อนแรงมากขึ้นมากกว่า
ที่กล่าวกันว่าถ้าการเมืองดี เศรษฐกิจจะดี ชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนจะดีขึ้น
วันนี้ได้รับการตอกย้ำว่า เพราะการเมืองไม่ดี การแก้โควิดจึงไม่ดีไปด้วย เศรษฐกิจยิ่งทรุดหนักตามไปด้วย
การเมืองผูกขาดเช่นนี้เอง ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
เราก็ต้องรับกับสภาพบ้านเมืองที่ดุเดือดเลือดพล่านตามท้องถนนไปเช่นนี้เรื่อยๆ กระมัง!
วงค์ ตาวัน