ความสงบจบที่ลุงตู่ กับพปชร.ก็ยังไม่สงบเลย – สโลแกนของพรรคพลังประชารัฐที่ใช้ในตอนเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 “เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่” ไปๆ มาๆ กลายเป็นคำที่นำมาใช้ย้อนศรเสียดสี ในท่ามกลางความไม่สงบของบ้านเมืองในยุคลุงตู่ หลายต่อหลายกรณี
ล่าสุด แม้แต่ระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับลุงตู่เอง ยังไม่มีความสงบเลย เปิดศึกจนต้องเคลียร์กันอลหม่าน!?!
ไม่เช่นนั้น เราเกือบจะได้เห็นส.ส.พรรคพลังประชารัฐ โหวตล้มลุงตู่ ที่เป็นนายกฯ ในบัญชีสนับสนุนของ พรรคเองเสียแล้ว
อย่างนี้แล้ว “เลือกความสงบจบที่ลุงตู่” ยิ่งกลายเป็นคำที่ใช้เสียดสีเฮฮาในทางการเมืองมากขึ้นไปทุกที
จึงหมดสิ้นมนต์ขลังไปเสียแล้วสำหรับสโลแกนนี้ เพราะทุกวันนี้เต็มไปด้วยความไม่สงบ
รวมไปถึงม็อบที่ออกมาไล่ลุงตู่ ซึ่งยังมีชุมนุมต่อเนื่อง ไม่จบสิ้นง่ายๆ
มีทั้งแนวสันติวิธี ชุมนุมที่แยกอโศกมนตรีในทุกเย็น และในรูปแบบคาร์ม็อบ
หรือจะเอาแนวบู๊ตีกันทุกวันก็ม็อบทะลุแก๊สที่สามเหลี่ยมดินแดง
ก่อนหน้านี้ ใช้วิธีงัดข้อกฎหมายสารพัดขึ้นมาจัดการกับแกนนำม็อบคนรุ่นใหม่ โดนจับเข้าคุกเข้าตะรางไปหลายรอบ
ออกมาแล้วก็ไม่เคยเปลี่ยนความคิดอุดมการณ์ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้มีใครชักใย ไม่ได้มีใครว่าจ้าง!!
ไม่เช่นนั้น โดนคุมขังทรมานทั้งกายและใจขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่นักสู้ของจริง คงโวยวายแหลกลาญแล้วว่า ใครจ้าง ใครชักใย
แต่นี่ไม่ใช่!!
ที่สำคัญ จับแล้วไม่มีผลสะเทือนทำให้ม็อบหยุดชุมนุมแต่อย่างใด
ม็อบต่อต้านนายกฯ ยืดเยื้อเช่นนี้ แล้วมีหลายกลุ่มหลายรูปแบบ แผ่กระจายไปทั่วประเทศ
เหล่านี้ล้วนขัดแย้งตรงกันข้ามกับสโลแกน กลายเป็นว่าบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีความสงบแต่อย่างใด ในยุคลุงตู่
เลือกลุงตู่มาแล้ว ไม่เห็นเกิดความสงบเลย นั่นเพราะทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งเป็นคู่กรณีอย่างเต็มตัว
ที่สำคัญปัญหาวิสัยทัศน์ ประสิทธิภาพ ในการจัดหาวัคซีนมาแก้ไขวิกฤตโควิด เป็นเครื่องยืนยันชัดสุด
หยุดการระบาดไม่ได้ เศรษฐกิจก็ไม่อาจฟื้นได้
การเมืองก็ไม่สงบ การต่อต้านการประท้วงก็ ไม่สงบ แม้แต่แก้โควิดก็ยังทำให้การระบาดสงบไม่ได้!?
ทอดสายตาไปข้างหน้าแล้ว ถ้ายังเฉยๆ ไม่แก้ไขไม่เปลี่ยนอะไรเช่นนี้
ก็เห็นแต่แนวโน้มความไม่สงบที่จะเพิ่มมากขึ้น!!