ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
คิดล้มรัฐบาลในสภา
ยังอยู่ในวิถีประชาธิปไตย
คิดล้มรัฐบาลในสภา ยังอยู่ในวิถีประชาธิปไตย – เพราะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ปริร้าว แต่ต้องพยายามกลบกระแสความแตกแยกในหมู่ 3 ป. ก็เลยต้องลงทุนโชว์ภาพความรักใคร่กลมเกลียวกัน โดยถึงขั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเดินโอบคอโอบหลังโอบไหล่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้เป็นภาพข่าว เพื่อหยุดเสียงวิจารณ์ความหมางเมินกัน
แต่ชาวบ้านดูข่าวแล้วพากันขบขัน
ปกติเดินกอดกันเป็นประจำสม่ำเสมอแบบนี้หรือไง ระหว่างบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม!?ฃ พูดง่ายๆ ว่า ภาพที่เห็นนั้น แสดงออกอย่างเกินปกติ จนกลายเป็นเรื่องดูตลกไปมากกว่า
แต่เอาเป็นว่า เมื่อคนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารบ้านเมือง ยอมยุติปมปัญหาความขัดแย้งกันได้ ก็ขอร่วมยินดีด้วย
เพียงแต่หลังเกิดรอยร้าวขึ้นมาแล้ว หวังว่าคงไม่มีอะไรมาทำให้เกิดการแตกร้าวอีกหน
ขืนมีอีกที คราวนี้คงยากจะเชื่อมต่อติดได้อีกแน่นอน!
ขณะเดียวกัน ความพยายามในการยุติภาพแตกร้าวในหมู่ 3 ป. ของพล.อ.ประยุทธ์นั้น
เป็นเครื่องอธิบายได้ดีว่า การตัดสินใจโชว์อำนาจเด็ดขาดของนายกรัฐมนตรี ด้วยการสั่งปลดรัฐมนตรี 2 คนนั้น
มีผลให้ยิ่งเกิดความขัดแย้งบานปลายมากกว่า!
ทั้งกระทบในหมู่ 3 ป. กระทบไปถึงในพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่เป็นฐานให้พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ
ลงเอยกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเอง จนน่าสงสัยว่าจะอยู่ต่อไปได้ยืนยาวขนาดไหน!?
โอบหลังโอบไหล่บิ๊กป้อม แล้วจะทำให้จบปัญหาได้ หรือไม่
แล้วจะทำอย่างไรกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เป็นถึงเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
แต่โดนปลดจากรัฐบาล ไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีอีกแล้ว!!
ข้อสำคัญ เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่น่าคิดว่า กรณีความเคลื่อนไหวในหมู่ส.ส.รัฐบาล จะไม่โหวตไว้วางใจนายกฯ
เป็นความเคลื่อนไหวขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความยากลำบากจากปัญหาการจัดหาวัคซีนเพื่อแก้ไข โควิด แถมเศรษฐกิจก็ทรุดไปเรื่อย ส่งผลต่อปัญหาปากท้องชาวบ้านอย่างรุนแรง
ส.ส.รัฐบาลที่รู้สึกรู้สากับปัญหาของชาวบ้าน มีความผิดขนาดไหน!?
ถ้าผลการโหวตไม่ไว้วางใจดังกล่าว เป็นการล้มรัฐบาล ภายใต้กลไกสภา
เป็นไปตามวิถีการเมืองระบบรัฐสภา และเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยแท้ๆ มีความผิดอย่างไร
ไม่ใช่การสมคบคิดก่อการล้มรัฐบาลด้วยการปฏิวัติรัฐประหารที่ผิดแน่ๆ ทุกประการ!!