ไม่เชิดชูวัน14ตุลาฯ
หวาดผวาพลังประชาชน

ชกไม่มีมุม

ถ้าไทยเราเป็นประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อำนาจการเมืองอยู่ในมือของประชาชนจริงๆ รับรองได้ว่าเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 จะต้องได้รับการยกย่องเชิดชูอย่างเป็นทางการ ให้เป็นวันประวัติศาสตร์ทางการเมืองอันยิ่งใหญ่ เพราะเป็นวันที่นักเรียนนักศึกษาประชาชนลุกขึ้นต่อสู้กับรัฐบาลทหาร แม้โดนปราบปรามนองเลือดด้วยกระสุนจริง จนได้รับชัยชนะ เบิกม่านประชาธิปไตยได้สำเร็จ

วันซึ่งพลังประชาชน สามารถเอาชนะต่ออำนาจของรัฐเผด็จการแบบนี้ ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แท้ เช่น ในย่านยุโรป จะต้องเป็นวันยิ่งใหญ่ ต้องมีอนุสาวรีย์เด่นสง่าใจกลางเมือง มีระบุไว้ในปฏิทิน เป็นวันหยุดของประเทศอะไรแบบนั้นไปแล้ว!

แต่ในไทยเรา ไม่เคยได้รับการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ ไม่มีในตำราเรียน

มีแต่ผู้นำนักศึกษาในยุคนั้น ญาติวีรชน ประชาชนคนรักประชาธิปไตย ที่ร่วมกันจัดงานรำลึก ประกาศความสำคัญของการต่อสู้

ขนาดอนุสาวรีย์ 14 ตุลาฯ ที่พูดกันตั้งแต่หลังผ่านเหตุการณ์ดังกล่าวมาใหม่ๆ มีการร่วมกันบริจาคเงินเพื่อก่อสร้างยกย่องเชิดชูวีรชน

ต้องใช้เวลาหลัง 14 ตุลาคม 2516 ถึง 28 ปี กว่าจะได้มีอนุสรณ์สถาน โดยมีพิธีเปิดในปี 2544

สะท้อนว่าประเทศนี้มีการเมืองเป็นเช่นไรได้ชัดเจน

เรายังไม่มีประชาธิปไตยที่แท้ ประชาชนยังไม่ได้เป็นเจ้าของอำนาจการเมืองอย่างแท้จริง

การต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของประชาชนใน 14 ตุลาฯ จึงถูกกลุ่มผู้มีอำนาจพยายามกดพยายามกลบเอาไว้มาตลอด

ตลอด 48 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการรับรองสถานะของวันสำคัญวันนี้จากรัฐ

แสดงว่าเครือข่ายกลุ่มอำนาจที่หวาดกลัว ไม่ปรารถนาให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้ ยังคงครอบงำสังคมนี้อยู่

จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า จนถึงบัดนี้สังคมไทยเรายังไม่มีประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง!

ที่เห็นได้อีกประการหนึ่ง คือ หลังจากนักศึกษาประชาชนเอาชนะอำนาจรัฐได้ในปี 2516 ผลักดันประชาธิปไตยให้ ผลิดอกออกผล

เพียงแค่ 3 ปี ระหว่างที่ขบวนการนักศึกษาประชาชนกำลังเติบโต ขับเคลื่อนสังคมให้ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

แล้วก็มาเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เพื่อหยุดขบวนการที่ได้รับชัยชนะจาก 14 ตุลาคม 2516

ทั้งไม่อยากให้ชัยชนะของนักศึกษาประชาชนในปี 2516 ได้รับการยกย่องเป็นที่จดจำแล้ว ไม่อยากให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ เป็นแบบอย่างในการต่อสู้

ยังลงมือกวาดล้างเข่นฆ่าเสียอีก

แต่สังคมต้องการการเปลี่ยนแปลงเสมอ มีคนรุ่นใหม่ๆ ลุกขึ้นมาผลักดันสิ่งที่ดีกว่า เพื่อสิ่งที่ก้าวหน้ากว่าตลอดมา

รวมทั้งคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ที่ยังจะต้องเดินหน้ากันต่อไป

ตราบใดที่รัฐยังไม่เชิดชู 14 ตุลาฯ แสดงว่าเรายังไม่มีรัฐที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน