คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
เรื่องราวในวันเดียวกัน เพื่อไทย-พปชร.
พร้อมกับที่สร้างความฮือฮา เป็นประเด็น จับตาและวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึง คือการเปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง เป็นประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม
แม้จะยังไม่ใช่บทสรุปที่แน่ชัด แต่ก็ทำให้หลายคนมอง ต่อไปถึงผู้จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงขึ้นมาโดยทันที
แต่ที่แน่ๆ ท่ามกลางข้อวิจารณ์ว่าแสดงถึงความเป็นพรรคครอบครัวดังเดิม
อีกด้านคือการส่งสัญญาณไปยังผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะที่เฝ้ารอรัฐบาลที่เก่งกาจด้านการพลิกฟื้นเศรษฐกิจปากท้อง เพื่อเป็นการยืนยันถึงศักยภาพของทักษิณ ชินวัตร ให้มั่นอกมั่นใจนั่นเอง
เป็นความเคลื่อนไหวของเพื่อไทย ที่แสดงความพร้อมในการลงสนามเลือกตั้งอย่างเต็มที่!
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ มีความเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 28 ตุลาคมเช่นเดียวกัน
เพียงแต่ ที่มีการชักธงรบ จะให้เป็นวันดีเดย์เปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค เปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค
ลงเอย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังเป็นเลขาธิการพรรคต่อไป ไม่เปลี่ยนแปลง!!
ส่วนหนึ่งเพราะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคยังยืนยัน ให้ธรรมนัสเป็นขุนพลคู่ใจต่อไป
พร้อมกับประสานให้ทุกมุ้งยุติความขัดแย้ง ไม่ปล่อยให้แตกแยกบานปลายไปไกล
ขณะที่ผู้ส่งสัญญาณให้เปลี่ยนเลขาธิการพรรคนั้น ย่อมต้องผิดหวัง และเสียหน้าอีกครั้งใหญ่!
ทั้งหลายทั้งปวง นี่เป็นสงครามอีกครั้ง ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและร.อ.ธรรมนัส เลขาฯ พลังประชารัฐ
สงครามที่เริ่มจากตอนจะโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ก่อนจะขยายเป็นการสั่งปลดร.อ.ธรรมนัสพ้น จากครม.
ผลก็คือยิ่งเกิดความแตกร้าวและอึมครึม!
เกิดความหวาดระแวง ทั้งการโหวตกฎหมายสำคัญๆ ในสภาต่อจากนี้ หวาดผวาเสียงส.ส.พลังประชารัฐในมุ้งของธรรมนัส
หวาดระแวงไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ
จนกระทั่งมาเกิดศึก 28 ตุลาคม แต่สุดท้ายก็ทำอะไรธรรมนัสไม่ได้อีก
รบกันครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้ และยังไม่สามารถหักโค่นกันได้เช่นนี้ คงอยู่กันได้ยากเต็มที
แวดวงนักการเมืองล้วนมองไปในทิศทางเดียวกันว่า จะรอเลือกตั้งตามวาระในปี 2566 คงเป็นไปได้ยากแล้ว
ในวันเดียวกัน 2 พรรคมีความเคลื่อนไหวต่างกัน แต่ลงเอยต้องรีบเตรียมเลือกตั้งเหมือนกัน!?!
