คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
กระแสยุบสภา กลางมรสุมสารพัด
การเมืองไทยเดินมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน อะไรจะเกิดขึ้นก็ได้ทุกเมื่อ โดยชนวนปัญหามีทั้งภายในรัฐบาลเองและปัญหาภายนอก หมายถึงความยากลำบากด้านเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้าน ผักแพง หมูแพง น้ำมันแพง และปีหน้าค่าไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอีก
ปัญหาสารพัดที่รุมเร้าอยู่
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่บุคคลสำคัญในรัฐบาล ต้องคอยตอบคำถามถึงการยุบสภา การเตรียมเลือกตั้งใหม่
ประเด็นการยุบสภา เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแกนนำของพรรคพลังประชารัฐ ที่วันนี้ความหมางเมินนั้นยังไม่คลี่คลาย
เพราะต่างคนก็ต่างมีดี มีของแข็งเหมือนกัน!!
แถมยังไปไกลกว่านั้น ถ้าหากยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แล้วพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีชื่ออยู่พรรคพลังประชารัฐอีกหรือไม่ หรือจะไปอยู่พรรคไหน
ประเด็นนี้เชื่อมโยงจากรอยร้าวภายในรัฐบาลเอง โดยเฉพาะ 3 ป.ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
คนที่พูดจาเสียงแข็งว่าไม่มียุบสภา ก็คงมีแต่พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น
โดยยืนยันว่าต่อให้กฎหมายลูก กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เสร็จสิ้นแล้ว ก็จะยังไม่ยุบสภา เพราะรัฐบาล ยังต้องทำงานอีกเยอะแยะ
คำพูดนี้ อย่าได้แปลว่านายกฯ มีความมั่นอกมั่นใจอย่างมาก!?!
ที่จำเป็นต้องยืนยันว่ายังอยู่อีกยาวนาน ประการแรกเลยเพื่อป้องกันปัญหาข้าราชการเกียร์ว่าง
ไม่ว่ารัฐบาลไหน ถ้าทำท่าง่อนแง่นอยู่ต่อไปไม่ได้ เหล่าข้าราชการนี่แหละ จะตีตัวออกห่างอย่างรวดเร็ว เล่นบทเกียร์ว่างทันที!
เพราะถ้ามีการเปลี่ยนแปลงการเมือง แล้วรัฐบาลใหม่เป็น อีกขั้ว ขืนยังรับใช้ขั้วนี้อยู่ ก็มีหวังโดนหมายหัว เปลี่ยนอำนาจเมื่อไรต้องโดนเก็บเข้ากรุแน่ๆ
ประเด็นต่อมา เส้นทางเบื้องหน้าของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ราบรื่นแต่อย่างใด
พอย่างเข้าปีใหม่ 2565 ระเบิดเวลาลูกใหญ่จะเริ่มเดินเข็มนาฬิกา นั่นคือ การตีความวาระ 8 ปีของนายกฯ ประยุทธ์!
การตีความ 8 ปี มีด้วยกันหลายทฤษฎี โดยทฤษฎีแรก ที่จะโหมกันขึ้นมา ก็คือ นับจากเริ่มเป็นนายกฯ จากการรัฐประหาร 2557 ซึ่งเท่ากับเริ่มเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2557
นั่นแปลว่าจะครบ 8 ปี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565
ที่สำคัญในแง่กระแสประชาชน แม้จะมีรักมีชอบพล.อ. ประยุทธ์ แต่ทุกคนล้วนยอมรับว่า วิกฤตของโลกและของประเทศไทย แค่เรื่องโควิดที่กระทบเศรษฐกิจรุนแรงเรื่องเดียว
อย่าได้ปฏิเสธเลยว่า เราจำเป็นต้องมีผู้นำในอีกแนว
ต้องเป็นคนรุ่นใหม่ ก้าวทันการหมุนของโลก มากด้วย วิสัยทัศน์ของนักบริหาร และต้องเชี่ยวชาญเศรษฐกิจ
จะรักจะชอบกันขนาดไหน มองชะตากรรมของคนทั้งประเทศ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วอย่างปฏิเสธไม่ได้!?!
