คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

โดย – วงค์ ตาวัน

เหลือ 2 ทางออก ปรับครม.หรือยุบสภา

การพ้นออกมาจากพรรคพลังประชารัฐของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และอีก 20 ส.ส. โดยเป็นมติของพรรคที่ให้ขับออก ส่งผลให้ทั้งหมด ยังคงมีสภาพเป็นส.ส.ในสภาอยู่ต่อไป แล้วก็คงเข้าสังกัดพรรคใหม่ที่ตระเตรียม เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

เท่ากับพรรคใหม่ คือ พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีส.ส. ในสังกัดทันที 21 คน จะกลายเป็นพรรคที่มีบทบาทในสภาได้ทันที

รวมทั้งมีผลต่อชะตากรรมของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย!

เพราะพรรคใหม่ที่มี 21 เสียง รวมทั้งอาจจะมีอีก 9 เสียงจากพรรคเล็กมาร่วมด้วย จะกลายเป็นพรรคที่มีกำลังต่อรองไม่ธรรมดา

โดย 21 เสียงหรืออาจจะเป็น 30 เสียงนี้ ถ้าหากไม่ร่วมสนับสนุนรัฐบาล จะส่งผลให้เสียงส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ตกอยู่ในสภาพปริ่มน้ำแบบสุดๆ

แต่ถ้า 21 ส.ส.หรืออาจจะเป็น 30 ส.ส. ดังกล่าว จะเป็นพรรคสนับสนุนรัฐบาล ก็ต้องแลกด้วยการมีตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย!

ขนาดพรรครัฐบาลที่มีส.ส.หลักสิบ ยังมีเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการ

แล้วพรรคเกิน 20 เสียงของร.อ.ธรรมนัส จะต้องได้ กี่เก้าอี้

แต่ปัญหาที่มากกว่าการเจรจาโควตารัฐมนตรีก็คือ ความบาดหมางระหว่างนายกฯ กับร.อ.ธรรมนัส จะทำให้การเจรจาร่วมรัฐบาล ยากยิ่งนัก!!

มีปมบาดแผลทางใจ มีปมศักดิ์ศรี เข้ามาเกี่ยวพัน

จะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากยิ่งสำหรับพล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็หมายถึงการจะอยู่ต่อไปได้หรือไม่ ของรัฐบาลนั่นเอง!?!

สถานการณ์การเมืองไทย จึงเป็นที่จับตาว่า จะมาถึงจุดสำคัญอย่างยิ่งยวดอีกครั้ง

ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ยอมอ่อน ก็จะต้องปรับครม. เพื่อรับพรรคเศรษฐกิจไทยเข้ามาร่วม

แต่ถ้าศักดิ์ศรีมันค้ำคอ เสียงแข็งไม่รับ!!

จำนวนส.ส.ในสภาของรัฐบาล คงไม่สามารถลากถู ต่อไปได้อีกแล้ว

ด้วยอีก 21 จนถึง 30 เสียงจะกลายไปเป็นฝ่ายค้าน

ทางออกของพล.อ.ประยุทธ์ น่าจะเหลือเพียงแค่ 2 ทางเท่านั้น

จะปรับครม.เพื่อรักษาเสียงส.ส.ในสภาให้พอไปไหว ให้รัฐบาลมีอายุยาวนานต่อไป

หรือจะยอมเล่นบทแข็งใส่ธรรมนัสต่อไป

แต่นั่นก็ต้องเลือกทางยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่

ในท่ามกลางสถานการณ์สินค้าแพงหูฉี่แบบนี้ ยุบแล้วจะเอาอะไรไปหาเสียงก็น่าสงสัยอีก!?!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน