คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย – วงค์ ตาวัน
พฤษภาฯเข้าช่วงระทึก 2 ทางออกไม่ควรมีทางอื่น

เป็นที่รู้กันว่า ระเบิดเวลาทางการเมืองกำลังใกล้จะถึงจุดตูมตามสนั่นหวั่นไหว จากกรณีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และอีก 20 ส.ส. แตกตัวออกมาตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยเป็นช่วงเตรียมการเปิดตัวพรรคเศรษฐกิจไทย เปิดเมื่อไหร่ก็จะกลายเป็นพรรคที่เกิดแรงกดดันต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่างไม่อาจเลี่ยงได้

ถ้าจะให้พรรคระดับ 20 ส.ส.ร่วมสนับสนุนรัฐบาล ก็ต้องแลกกับอะไร เป็นเรื่องปกติในทางการเมือง

ดังนั้นจึงคาดกันว่า ในอีกไม่นานนัก รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะมาถึงจุดต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ

ปรับครม.เพื่อดึงพรรคธรรมนัสเข้ามาเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือถ้าไม่ยอมปรับ ไม่ยอมยกเก้าอี้ให้ ก็ต้องยุบสภา

โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ เมื่อเข้าสู่ช่วงสภาเปิดสมัยประชุมใหม่ จะต้องมีญัตติของฝ่ายค้านขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติ รออยู่

ซักฟอกแล้วลงมติ ภายใต้เสียงรัฐบาลที่ลดน้อยลง ดังนั้นพฤษภาคมนี้จะเป็นช่วงเวลาสู่การแตกหักทางการเมือง!

ทางเลือก 2 ทางที่รออยู่ คือ ไม่ปรับครม. ก็ต้องยุบสภา ไม่ใช่เรื่องเกินจริง

เพียงแต่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็นหนทางที่สาม บอกว่าได้กลิ่นรัฐประหารโชยหึ่ง

ทำเอาฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายรัฐบาลออกมาโต้กันใหญ่!

การปฏิเสธ และยืนยันว่าไม่มีกลิ่นการรัฐประหารก็เป็น เรื่องดี

แต่เหนื่ออื่นใด ต้องไม่แค่พูด แต่ต้องไม่มีการรัฐ ประหารจริงๆ ไม่เช่นนั้นประเทศเราจะถอยหลังลงคลองไปทั่วทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ทรุดหนักจากโควิดอยู่แล้ว!

ต้องยอมรับว่ารากฐานอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์นั้นคือกองทัพ

สำคัญสุดคือพล.อ.ประยุทธ์เข้าสู่อำนาจด้วยการรัฐประหารเมื่อ 2557 ในฐานะตัวแทนของฝ่ายอนุรักษนิยมการเมือง

อีกทั้งฝ่ายอนุรักษนิยมล้าหลัง มักถนัดใช้กองทัพมาเป็นเครื่องมือรักษาอำนาจ!

วันนี้ถ้ามองว่ายุบสภาแล้วโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์จะกลับมา มีค่อนข้างน้อย ก็อาจหน้ามืดตามัว เลือกหนทางรถถัง เพื่อรั้งอำนาจของฝ่ายตนเอาไว้

ทั้งๆ ที่สังคมการเมืองทั่วโลก เขาก็มีนักการเมืองพรรคการเมืองทุกแนวคิด

แต่ประเทศที่เจริญแล้ว ใช้การตัดสินใจของประชาชนในวันเลือกตั้งชี้ขาดว่า ฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายอนุรักษนิยมการเมือง หรือฝ่ายอื่นๆ ใครควรเป็นรัฐบาล

ส่วนใครแพ้ก็อดทนรออีกไม่เกิน 4 ปี ได้ตัดสินกันใหม่

เห็นการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขตหลักสี่ เห็นการเตรียมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

ตัวแทนม็อบกปปส.ที่เป็นม็อบอนุรักษนิยมสุดขั้ว แห่กันลงเลือกตั้ง

ยังรู้สึกดีใจที่ยังเลือกหนทางสภา ไม่ใช่เอะอะก็หาแต่รถถัง!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน