เมื่อผ่านวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ทำให้ต้องนึกถึงเหตุการณ์รัฐประหารคณะรสช.เมื่อ 31 ปีก่อน เป็นการยึดอำนาจล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง จากนั้นหัวหน้าคณะรสช.เข้ามาเป็นนายกฯ เสียเอง หลังการเลือกตั้งในปี 2535 เข้าทำนองการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร

จึงเป็นชนวนเหตุให้ประชาชนลุกฮือครั้งใหญ่ แล้วโดน ปราบปรามด้วยกระสุนจริง จนกลายเป็นเหตุการณ์นองเลือดพฤษภาทมิฬ 2535

แล้วผลจากการต่อสู้ด้วยชีวิตเลือดเนื้อของ วีรชน จึงนำมาสู่ประเด็นสำคัญของประวัติศาสตร์การเมืองไทย

นั่นคือ เพื่อป้องกันอำนาจนอกระบบ ป้องกันอำนาจกองทัพ เข้าแทรกแซงการเมืองได้อีก จึงให้กำหนดในรัฐธรรมนูญว่า นายก รัฐมนตรีต้องมาจากส.ส.เท่านั้น

จากนั้นรัฐธรรมนูญต่อๆ มาก็กำหนดประเด็นที่มาของนายกฯ อย่างชัดเจนมาตลอด

จนกระทั่งการรัฐประหารหนล่าสุด 22 พฤษภาคม 2557 นำมาสู่รัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งลบล้างประเด็นนี้ออกไป!

ดังนั้นสิ่งที่คล้ายคลึงกันของคณะรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ 2534 และคณะรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557

ก็คือชอบการเมืองถอยหลัง โดยรัฐธรรมนูญไม่กำหนดว่านายกฯ ต้องมาจากส.ส.เท่านั้น








Advertisement

รวมทั้งหัวหน้ารัฐประหารชอบสืบทอดอำนาจเป็นนายกฯ เองเหมือนๆ กัน

เท่ากับว่า ที่วีรชนพลีชีพให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่ให้นายกฯ ต้องมาจากส.ส. ต้องมาจากผู้ที่ผ่านการเลือกตั้งเท่านั้น

สู้จนได้นายกฯ ประชาธิปไตยเต็มตัวในปี 2535 แล้วต้องถอยหลังกลับไปยุคล้าหลังอีกด้วยรัฐธรรมนูญ 2560!

หนักหนากว่านั้น ผลพวงจากการรัฐประหารปี 2557 ทำให้ได้รัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งไม่กำหนดที่มาของนายกฯ อย่างเป็นประชาธิปไตยชัดเจน

ยังพ่วงด้วยบทเฉพาะกาล 5 ปี ที่ให้ 250 ส.ว.มีอำนาจโหวตตั้งนายกฯ อีกด้วย

ดังนั้นสิ่งที่นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย รวมทั้งประชาชนที่รักประชาธิปไตยจะต้องต่อสู้เรียกร้องภายใต้การเมืองยุคนี้!

จึงมีทั้งการเรียกร้องให้ที่มานายกฯ ต้องมาจากส.ส.เท่านั้น

ไปจนถึงการหยุดอำนาจ 250 ส.ว. ไม่ให้ร่วมโหวตตั้งนายกฯ

เพราะเท่ากับให้ผู้ที่มาจากการแต่งตั้ง มีอำนาจเหนือส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง และเหนือประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

ไม่น่าเชื่อว่า การย้อนทบทวนถึงเหตุรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ เมื่อ 31 ปีก่อน

เราได้เห็นมุมที่การเมืองไทยยุครัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ทำให้บ้านเมืองเราถอยหลังกลับไปอย่างโจ่งแจ้ง

ทำทุกอย่างให้กลับไปสู่ยุคที่ผู้นำกองทัพสามารถเข้าสู่อำนาจการเมืองได้ง่ายๆ

เขาต่อสู้กันมาจนสำเร็จเมื่อ 31 ปีก่อน ก็ยังย้อนยุคกลับไปเสียอีก!?!

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน