บรรยากาศความสนใจใคร่รู้ของคนในสังคมต่อคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม” ที่เป็นกระแสสูงอย่างมาก ทำให้ต้องนึกถึงบรรยากาศที่คล้ายคลึงกัน ในคดีดัง เมื่อ 2 ปีก่อน คดี “น้องชมพู่” ซึ่งคนติดตามความเป็นไปของคดีกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ถึงแม้คดีเด็กหญิงวัย 3 ขวบ แห่งหมู่บ้านกกกอก ในชนบทมุกดาหาร จะมีจุดต่างในบางประเด็นกับคดีแตงโม ซึ่งเป็นศิลปินดาราดัง และเกิดเหตุบนเรือหรู ท่ามกลางแวดวงหนุ่มไฮโซ
แต่จุดที่เหมือนกันคือ เป็นการเสียชีวิต ที่ไม่ใช่การจงใจฆ่า
โดยคดีแตงโม จนถึงวันนี้ ยังไม่พบประเด็นสาเหตุความขัดแย้งรุนแรง ที่จะนำมาสู่การวางแผนฆาตกรรมบนเรือ
น่าจะเป็นการเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยอาจจะพลาดพลั้งตกเรือไปเอง ตามคำกล่าวอ้างของอีก 5 คนบนเรือ หรือก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่มีการปกปิด
ส่วนคดีน้องชมพู่นั้น มาถึงจุดมีผู้ต้องหา และอัยการมีความเห็นส่งฟ้องศาลไปแล้ว โดยรูปคดีชี้ว่า เป็นลักษณะเอาเด็กไปปล่อยทิ้งด้วยอารมณ์จนทำให้เด็กขาดอาหารขาดน้ำถึงแก่ความตาย!
ไม่เพียงเป็น 2 คดีที่ทำเอาคนไทยทั้งประเทศติดตามข่าวสารกันงอมแงม
รวมทั้งมีความเห็นแตกประเด็นถกเถียงกันอื้ออึงมากมาย
Advertisement
แต่เพราะในคดีน้องชมพู่ เมื่อพฤษภาคม 2563 นั้น มีพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็นหัวหน้าชุดทำคดี ขณะเป็นรองผบ.ตร. มาวันนี้เกิดคดีดาราสาวแตงโม ขณะที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ เป็นผบ.ตร. และติดตามคดีใกล้ชิด กำหนดแนวทางให้รอบคอบครบถ้วน
คดีน้องชมพู่ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นคือการหายตัวออกจากบ้าน ไปจนถึงจุดพบศพบนภูเหล็กไฟ ไม่มีพยานรู้เห็น ไม่มีกล้องวงจรปิด ที่ช่วยคลี่คดีเลย
ส่วนคดีแตงโม ขณะเกิดเหตุ มีคำให้การของคน บนเรือ 5 คนเท่านั้น แต่ยังไม่มีพยานภายนอก ไม่มีวงจรปิด ไม่มีบันทึกอื่นใด!
สำหรับคดีน้องชมพู่ ต้องใช้เวลายาวนานสอบปากคำคนทั้งหมู่บ้านเกือบ 400 ปาก จนได้เห็นคนที่มีพิรุธชัดเจน
ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่พบในจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด
จนสามารถพิสูจน์ได้ว่าเส้นผมจำนวนหนึ่งที่คนร้ายตัดจากศพ เพื่อทำพิธีไสยศาสตร์ ไปโผล่ในรถของผู้ต้องหา ซึ่งพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าเป็นชุดเดียวกัน!
กลายเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดี
ใช้เวลากว่าปีจึงจะมีการตั้งข้อหามีผู้ต้องหา
พร้อมบทสรุปที่ว่า จุดเริ่มต้นไม่ใช่การตั้งใจฆ่า
คดีที่ไม่ได้มีปมประเด็นชัด ไม่ได้เกิดจากการวางแผน มาก่อน
กลายเป็นคดีที่มีความซับซ้อนไปอีกแบบ
คดีน้องชมพู่ จึงมีความคล้ายคลึงกับคดีแตงโมเช่นนี้
แต่บทสรุปของคดีดาราสาวตกเรือ โปรดตาม อย่างจดจ่อกันต่อไป!
วงค์ ตาวัน
