ย้อนไปในช่วงกลางเดือนเมษายน ท่ามกลางข้าวของที่แพงไปแทบทุกอย่าง จำได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวฝากถึงประชาชนอย่างซาบซึ้ง
เป็นคำกล่าวของนายกฯ ที่ให้เสียงบรรยายโดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาล เพราะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ประชาชนจะไม่ได้เห็นนายกฯ มีอะไรก็กล่าวผ่านโฆษกนี่แหละ
ตอนนั้นนายกฯ บอกว่า ได้กำชับ ให้กระทรวงพาณิชย์และทุกหน่วยงานร่วมกันแก้ปัญหาและหาทางช่วยเหลือประชาชน ให้ควบคุมราคาสินค้า เพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าราคาถูก เพิ่มรถพุ่มพวง
พร้อมทั้งย้ำว่า นายกฯ เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้ทอดทิ้งให้แบกรับภาระค่าครองชีพอยู่ฝ่ายเดียว
จากวันนั้นถึงวันนี้ 2-3 สัปดาห์แล้ว ที่บอกว่านายกฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้ทอดทิ้งให้ประชาชนรับภาระ
แล้วทำไม ข้าวของมีแต่แพงขึ้นไม่มีหยุดหย่อน!!
อีกทั้งเราไม่ได้เห็นมาตรการคลี่คลายค่าครองชีพอย่างได้ผลออกมาเลย
ตอนนี้อาหารริมถนนของคนหาเช้ากินค่ำ กระทบไปหมด ด้วยพิษน้ำมันแพงสุดโหด ลามไปถึงน้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม ที่ราคาขึ้นแบบรายสัปดาห์
ปาท่องโก๋ กล้วยทอด มันทอด อั้นไม่อยู่แล้ว ต้นทุนพุ่งเพิ่มหนัก!
พ่อค้าแม่ค้าได้แต่ขอความเห็นใจลูกค้า ก่อนจะลงท้ายเสียงบ่นว่า แล้วทำไมรัฐบาลไม่แก้อะไรเลย
คงต้องบอกว่า รัฐบาลแก้แล้วไง ด้วยไอเดียวิสัยทัศน์ระดับจัดรถพุ่มพวงออกมาจำหน่ายสินค้าราคาถูก!?!
เอาเข้าจริงๆ การจัดรถพุ่มพวงแค่ไม่กี่คัน จะขายของถูกให้ชาวบ้านได้ทั่วถึงอย่างไร
นอกจากจะแก้ปลายเหตุแบบปลายมากๆ แล้ว ยังไร้ประสิทธิภาพประสิทธิผล
ไม่เท่านั้น ในช่วงเดือนที่แล้วเช่นกัน มีองค์กรด้านการค้าอุตสาหกรรม เตือนรัฐบาลว่า หลัง 1 พฤษภาคม เมื่อเลิกอุ้มน้ำมันดีเซล ราคาสินค้าจะต้องแพงหนักขึ้นไปอีก
เตือนไปก็เท่านั้น เพราะเดือนนี้ของแพงอย่างมหากาฬไปทั่วทุกอย่าง โดยที่รัฐบาลก็ไม่สามารถหยุดยั้งอะไรได้!?!
จึงไม่น่าแปลกที่ข่าวความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ในช่วงใกล้เปิดสภา จึงทำให้ประชาชนสนใจกันมาก
ชาวบ้านมีความหวัง หากสามารถเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้ในสภา เพื่อหาคนเก่งเศรษฐกิจมากู้วิกฤต!
วันก่อนพล.อ.ประยุทธ์ออกมาตอบโต้ข่าวการล้มรัฐบาลว่า ล้มแล้วมีอะไรดีขึ้นมา ถ้าต้องการให้การเมืองวนกลับไปจุดเดิมก็ตามใจ
ฟังแล้ว เข้าใจได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการบอกกับสังคมว่า ก่อนที่ตนเองจะเข้ามานั้น บ้านเมืองวุ่นวาย เต็มไปด้วยม็อบ มีตีกันยิงกัน
เหมือนขายของเก่าที่เคยชูสโลแกน เลือกความสงบต้องจบที่ลุงตู่
ทั้งที่สถานการณ์หลายปีมานี้ในยุครัฐบาลนี้ คือ ความลำบากด้านปากท้องเศรษฐกิจของประชาชน!!
วงค์ ตาวัน