ประเทศญี่ปุ่นได้ชื่อว่า มีความเข้มงวดในการควบคุมอาวุธปืนอย่างได้ผล รวมไปถึงมากด้วยประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมรุนแรง

ในทางการเมืองยิ่งชัดเจนว่า ญี่ปุ่นไม่เคยเกิดปัญหา การใช้ความรุนแรง ไม่เคยมีการลอบฆ่าทางการเมือง เนื่องจากเป็นประชาธิปไตยที่เปิดกว้าง

เหตุการณ์ลอบยิงนายอาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จึงเป็นเหตุการณ์ที่ช็อกคนทั้งญี่ปุ่นและช็อกทั้งโลก

แต่ในเบื้องต้น คนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งเป็นอดีตทหาร และใช้อาวุธปืนประดิษฐ์ขึ้นเอง น่าจะลงมือโดยลำพัง ไม่ใช่การลอบยิงที่มีแผนสลับซับซ้อน จึงทำให้ถูกจับกุมได้ทันทีในที่เกิดเหตุ

คงต้องติดตามการสอบสวนหาเบื้องหลังกันต่อไป ว่าเชื่อมโยงอะไร หรือเป็นแค่พวกป่วยจิต

ทั้งนี้เพราะภาพรวมการเมืองญี่ปุ่นนั้น เป็นประชาธิปไตยที่มีมาตรฐาน มากด้วยเสรีภาพ มีการยุบสภา มีเลือกตั้งบ่อยๆ ให้ประชาชนตัดสินใจ ไม่มีพวกฉ้อฉลกติกาผูกขาดอำนาจ จึงไม่มีเหตุจูงใจใช้ความรุนแรงในทางการเมืองได้!

ปฏิกิริยาจากผู้นำทั่วโลก นอกจากแสดงความอาลัยในอดีตผู้นำญี่ปุ่นคนสำคัญ

ยังพากันป่าวประณาม และต่อต้านการใช้ความรุนแรง ลอบยิงลอบฆ่ากันแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศไหน

ส่วนในไทยเรา มีการหารือถึงแผนป้องกันผู้นำรัฐบาลอย่างเข้มงวดมากขึ้น

โดยเฉพาะหน่วยงานตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. สั่งจัดเพิ่มกำลังอารักขานายกฯ และการสืบสวนหาข่าวอย่างเข้มข้น

ยังดีที่ว่า โดยอุปนิสัยใจคอของคนไทย ต้องนับว่าไม่ใช่สังคมที่นิยมการแตกหัก สามารถหาทางออกประนีประนอมได้

แต่ก็ต้องยอมรับว่า การลอบสังหารทางการเมือง เคยพยายามทำกันแล้วจริงๆ เพียงแต่ไม่สำเร็จ

พยายามลอบสังหาร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไปจนถึงพล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ขณะเป็นผู้นำกองทัพ รวมทั้งคาร์บอมบ์ที่ตั้งใจถล่มทักษิณ ชินวัตร

ดังนั้นมองการเมืองไทยในยุคนี้ การอยู่ในอำนาจยาวนาน ท่ามกลางความขัดแย้งที่สะสมต่อเนื่อง

จึงสมควรแล้วที่จะต้องมาคิดเรื่องการอารักขาผู้นำรัฐบาล หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่น

แผนป้องกันดูแลความปลอดภัย ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือ การทำการเมืองให้เปิดกว้าง ลดการผูกขาดอำนาจ อย่าได้สร้างกติกาที่เอารัดเอาเปรียบ หวังให้ตัวเองสืบทอดอำนาจไปยาวนาน

เหล่านี้เป็นการทำให้เกิดบรรยากาศความปลอดภัยต่อผู้นำรัฐบาลที่ดีที่สุด!!

ถ้าทำให้การเมืองเปิดกว้าง ตัดสินใจโดยประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เอา 250 ส.ว. เอาสูตร 500 มาเป็นเครื่องมือสำคัญสุด อย่าทำให้ฝ่ายอื่นอัดอั้นจนหมดทางออกในระบบปกติ

นี่แหละจะทำให้ไม่เกิดความรุนแรงในทางการเมือง ทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปอย่างสงบมากที่สุด!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน