จะไปไหวมั้ย เป็นคำถามจากชาวบ้านร้านตลาดที่กระหึ่มกันไปทั่ว เมื่อดูจากสภาพของรัฐบาลในเวลานี้ ส่วนหัวก็ยังไม่มี ไม่รู้ชะตากรรม ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็ซัดกันนัวเนีย
ถึงขั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าภูมิใจไทย ถึงกับประกาศว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องเกรงใจอะไรกันอีกแล้ว ฉะกันตรงๆ กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าประชาธิปัตย์
เช่นนี้แล้วจะไม่ให้ประชาชนสงสัยได้อย่างไร ว่ารัฐบาลนี้จะไปต่อไหวหรือไม่
ทั้งนี้เหตุล่าสุดที่นายอนุทินเดือด มาจากการถูกสกัดร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง
โดยประชาธิปัตย์ร่วมกับพรรคอื่นๆ ผลักดันให้ถอนร่างพ.ร.บ.นี้
แถมเกิดกระแสลุกลาม ให้นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติด จนกว่าจะมีร่างพ.ร.บ.ที่สมบูรณ์แบบออกมาบังคับใช้!!
เช่นนี้แล้วคือกระทบนโยบายของภูมิใจไทยที่ใช้ในการหาเสียงกับประชาชนมาตลอด
แล้วที่คิดว่าจะเป็นนโยบายเด็ดในการหาเสียงเลือกตั้งต้นปีหน้า ก็อาจมีปัญหาแล้ว
จุดสำคัญน่าจะเป็นเพราะภูมิใจไทยตกเป็นเป้าของพรรคการเมืองหลายพรรค เนื่องจากการเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมเลือกตั้ง อย่างครึกโครม ไม่สนใจใคร
กระทบกระทั่งกับพรรคการเมืองอื่นอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่
แต่ถ้ามองถึงสภาพภายในรัฐบาลเอง ก็บ่งบอกว่า เข้าสู่ช่วงขาลง เป็นช่วงที่ไม่ต้องห่วงใยภาพรวมอะไรอีกแล้ว มีอะไรก็ซัดกันตรงๆ แตกเป็นแตก!?
อีกประการความไม่แน่นอนของรัฐบาล ยังมาจากส่วนหัวคือนายกรัฐมนตรี ที่โดนพักงาน
และยังไม่รู้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดี 8 ปีจะออกมาเช่นไร
กว่าจะถึงวันที่ 30 กันยายน วันตัดสิน ก็คงมีแต่ความอึมครึมระส่ำระสาย!!
ทั้งหมดนี้ ตั้งแต่วันที่ศาลมีมติที่ให้พักหน้าที่นายกฯ เมื่อ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา แล้วถ้ารู้จักประเมินให้ดี มติ 5 ต่อ 4 นั้น มีความหมายอะไร
ตัดสินใจอะไรให้ชัดเจนไปตั้งแต่วันนั้น
จะทำให้รัฐบาลเข้าที่เข้าทาง เดินหน้าต่อไปได้อย่างสดสวย จนกว่าจะไปเลือกตั้งกันต้นปี
ตอนนี้แม้แต่ภายในรัฐบาลเอง ก็อดสับสนกันไม่ได้ นายกฯ ประยุทธ์จะกลับมาหรือไม่ รักษาการนายกฯประวิตร จะขึ้นเป็นตัวจริงหรือไม่
สภาพที่ไม่มีอะไรแน่นอน ความรักความสามัคคีก็เลยถึงจุดแตกหัก อาการยิ่งทรุดหนักเข้าไปใหญ่!?
ลงเอยเมื่อทะเลาะกันขนาดนี้ จะยุบสภา หรือจะมีบางพรรคชิงถอนตัวเพื่อสร้างคะแนน
ล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น เพราะจะไปต่อก็ทุลักทุเลเต็มที!!
วงค์ ตาวัน