สงสัยคงกำลังเพลิดเพลินกับการเก็บคะแนนเสียงเลือกตั้ง จนทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะลืมไปว่า นอกจากเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็นควบรัฐมนตรีกลาโหมอีกตำแหน่งด้วย จึงกลายเป็นประเด็นคำถามขึ้นมาว่า ทำไมไม่ไปดูแลเหตุการณ์เรือรบหลวงล่ม ที่สร้างความสูญเสียมากมาย
เห็นแต่ไปผัดกะเพราอยู่ที่ภาคใต้ ไปแหลงใต้ รักจังฮู้ ถัดมาก็ขึ้นเหนือ ไปรับกุหลาบแดงที่เชียงราย
ดังนั้นคงหนีไม่พ้น จะต้องถูกตั้งคำถาม ถึงบทบาทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับปัญหาเรือรบหลวงล่ม ทหารเรือสูญเสีย และสูญหายอีกจำนวนมาก
แต่เอาเป็นว่าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มุ่งมั่นอย่างมาก ที่จะเดินหน้าต่อไปบนถนนการเมือง แม้ว่าหลังเลือกตั้งครั้งหน้า จะมีเวลาอยู่ในตำแหน่งได้แค่ 2 ปีก็ตาม
รวมทั้งทำทุกอย่างเพื่อให้พรรครวมไทยสร้างชาติ มีความแข็งแกร่งในสนามเลือกตั้ง
ถึงขั้นแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จากที่ปรึกษานายกฯ มาเป็นเลขาธิการนายกฯ
การแต่งตั้งหัวหน้าพรรคการเมือง ที่พล.อ.ประยุทธ์เองกำลังจะไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนี้
มานั่งเก้าอี้ใหญ่โตในทำเนียบ ที่เรียกกันว่าเป็นนายกฯ น้อย
Advertisement
แบบนี้ย่อมถูกตั้งข้อสงสัย เพราะการเลือกตั้งกำลังจะมาถึงในอีกไม่นานนัก มาตั้งกันตอนนี้ ดูดีมีความเหมาะสมหรือ!?
ที่แน่ๆ เห็นกันได้ชัดเจนแล้วว่า การแยกทางเดินกับบิ๊กป้อม ออกจากพลังประชารัฐ มาเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
ทำให้หลักพึ่งพิงสำคัญของพล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นนายพีระพันธุ์ จนต้องตั้งมานั่งเก้าอี้เลขาธิการนายกฯ
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เพิ่งตั้ง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ซึ่งลาออกจากประชาธิปัตย์ มาสังกัดรวมไทยสร้างชาติ
ในทันทีทันใด ก็ตั้งให้นายไตรรงค์มาเป็นที่ปรึกษานายกฯ
ตอนนี้บิ๊กตู่ จึงมี “ตุ๋ย” พีระพันธุ์ ทำงานใกล้ชิด มี “ไตรรงค์” มาเป็นกุนซือข้างกาย!
เตรียมเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติเต็มตัว
เท่ากับว่าต่อไปนี้ คงหมดสิ้นคำว่ายุค 3 ป.แล้ว เพราะป.ประยุทธ์ แยกทางเดินกับป.ป้อมแล้ว
บิ๊กตู่พ้นจากพลังประชารัฐของป.ป้อมไปแล้ว
ต่อไปจะมีแต่ “3 ต.” มาแทนที่
มีบิ๊กตู่-ตุ๋ย-ไตร
แต่นักวิเคราะห์การเมืองก็ยังหนักใจแทนว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังมองไม่เห็นโอกาสในสนามเลือกตั้งสักเท่าไหร่
อนาคตของ “3 ต.” จะผงาดเทียบเท่ายุค “3 ป.” ได้อย่างไร ยังมองไม่เห็น!?!
วงค์ ตาวัน
