กลายเป็นอธิบดีกรมใหญ่โต มีอำนาจหน้าที่มากมาย โดนย้ายฟ้าผ่าเป็นคนที่ 2 ในรอบเวลาไม่ถึงเดือน ด้วยมีเหตุอื้อฉาวเรื่องทุจริตเรื่องสินบน นับจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ซึ่งโดนเมื่อปลายปี 2565 มาจนถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่โดนเด้งรายล่าสุด
รายอธิบดีกรมอุทยานนั้น โดนบุกจับคาห้องทำงาน พร้อมเงินสดจำนวน 5 ล้านบาท หลังจากโดนร้องเรียนกล่าวหาว่า เรียกรับเงินค่าแต่งตั้งโยกย้าย และเงินส่วยรายเดือน
ส่วนอธิบดีกรมดีเอสไอนั้น เนื่องจากผู้ใต้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอหลายรายร่วมกับตำรวจ 191 และทหารศรภ. โดนกล่าวหาร้ายแรงเรียกรับสินบนแลกกับการปล่อยตัวแก๊งจีนสีเทา
อันเนื่องจากเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ซ่องสุมแก๊งปลอมพาสปอร์ตชาวจีน แต่มีการเรียกรับเงินนับสิบล้านเพื่อแลกการปล่อยตัว และลดจำนวนเงินสดของกลาง
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจะเข้ามอบตัว โดนดำเนินคดี โดยมิได้พาดพิงมาถึงอธิบดี
แต่ก็น่าคิดว่า ลงเอยก็ต้องเด้งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างสั่นสะท้านไปทั้งกรม!!
จึงนับเป็นอธิบดีกรมระดับเกรดเอ 2 รายซ้อน ที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาว
แม้ว่า อธิบดีกรมอุทยานยังปฏิเสธข้อหาและต่อสู้คดีอยู่ ส่วนอธิบดีดีเอสไอก็ยังไม่ได้ต้องคดีอะไร
แต่เมื่อเป็นข้าราชการระดับสูงเช่นนี้ จึงถือได้ว่าส่งผลกระทบต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างปฏิเสธไม่ได้!?
เป็นระดับอธิบดีหน่วยงานใหญ่ การแต่งตั้งโยกย้ายจะไม่ผ่านการร่วมตรวจสอบจากรัฐบาลได้หรือ
ไหนว่าเป็นรัฐบาลปราบโกง แต่ข้าราชการใหญ่ที่แต่งตั้งในยุครัฐบาลนี้ โดนเด้งซ้ำๆ ด้วยเหตุอื้อฉาวโยงการทุจริต!
หนึ่งในสองอธิบดีดังกล่าว มีประวัติเชื่อมโยงไปถึงผู้นำรัฐบาล ด้วยพี่ชายเป็นนายทหารเพื่อนร่วมรุ่น
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเหตุหนุนส่งให้มานั่งอธิบดีกรมเกรดเอหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ต้องเตรียมตอบคำถามเรื่องนี้อย่างเหน็ดเหนื่อย!
เชื่อว่าจะต้องเป็นหัวข้อในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่มีการลงมติในเร็วๆ นี้
โดยฝ่ายค้านมุ่งจะเปิดแผลรัฐบาล ให้ประชาชนได้เห็น ก่อนการเลือกตั้ง
คงถลกกันแหลก เพื่อลดคะแนนความเชื่อถือรัฐบาล
จนถึงขั้นเริ่มสงสัยว่ารัฐบาลอาจชิงยุบสภา เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านได้โชว์ซักฟอก
แต่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งก็คงหนีไม่พ้น
เพราะมักชอบอวดอ้างว่าเป็นนายกฯ ที่มีผลงานปราบโกง
เจอเรื่อง 2 อธิบดีนี้เข้าให้ จะหาเสียงในประเด็นนี้ได้คล่องหรือ!?!
วงค์ ตาวัน