อีกเหตุผลหนึ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังอยากจะไปต่อในการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้จะต้องนำมาซึ่งความบาดหมางกันในหมู่ 3 ป. โดยยอมทิ้งพรรคพลังประชารัฐ ย้ายไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ
อีกทั้งแม้ว่าจะมีข้อจำกัด โดยหากยึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นนายกฯ ได้ถึงปี 2568 เท่ากับสมัยหน้านี้จะเป็นนายกฯ ได้แค่ 2 ปี
ทั้งต้องย้ายพรรค ทั้งยังมีวาระเป็นต่อได้แค่ครึ่งเทอม แต่ก็ยังอยากจะเป็นนายกฯ อีกสมัย!
น่าเชื่อว่า เหตุผลสำคัญประการหนึ่งก็คือ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นี้ อุตส่าห์ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา อุตส่าห์เขียนบทเฉพาะกาลให้ส.ว.ชุดแรก มีวาระอยู่ถึง 5 ปี และสามารถโหวตตั้งนายกฯ ได้
เขียนเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ส.ว.มีอำนาจโหวตตั้งนายกฯ ได้ถึง 2 สมัย
เขียนรัฐธรรมนูญอย่างนี้แล้ว จะทิ้งโอกาสนี้ไปได้อย่างไร!?!
เอาเข้าจริงๆ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาแล้ว 2 สมัย เป็นมาแล้ว 8 ปี
สมัยแรก เป็นนายกฯ จากอำนาจรัฐประหารตั้งแต่ปี 2557 แล้วเป็นต่อสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งปี 2562 ด้วยอำนาจ 250 ส.ว.นี้แหละเป็นตัวช่วยสำคัญ
แต่เมื่อเขียนรัฐธรรมนูญเอาไว้แล้ว ให้ส.ว.อยู่ได้ 5 ปี วางล็อกไว้แล้วว่าโหวตนายกฯ ได้ 2 ครั้ง
การเลือกตั้งในปี 2566 นี้ อำนาจ ส.ว.โหวตนายกฯ ยังมีอยู่ เหมือนยังเอื้อประโยชน์ให้พล.อ.ประยุทธ์ได้อีก
ก็เลยต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ ส่วนจะเป็นไปได้จริงหรือไม่ ยังไงก็ต้องหวังเอาไว้ก่อน!
ความจริง เมื่อตอนที่รัฐธรรมนูญฉบับคสช.คลอดออกมา เมื่อปี 2560 โดยกำหนดบทเฉพาะกาลเอาไว้โจ่งแจ้ง
ให้ 250 ส.ว.ที่แต่งตั้งกันขึ้นมาเองกับมือ มีอายุถึง 5 ปี โดยมีอำนาจโหวตแต่งตั้งนายกฯ ได้
มองกันออกตั้งแต่แรกแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการเป็นนายกฯ ด้วยอำนาจ 250 ส.ว. อย่างต่อเนื่องถึง 2 หน!
ขณะที่อายุสภาผู้แทนฯ และรัฐบาลมีแค่ 4 ปี แต่ให้ 250 ส.ว.อยู่ถึง 5 ปี เป็นการวางแผนล่วงหน้าอย่างโจ๋งครึ่มที่สุด ไม่ต้องปกปิดซ่อนเร้นอะไรกันแล้ว
พอสภาครบ 4 ปี เลือกตั้งใหม่ ก็ให้ 250 ส.ว.ตั้งนายกฯ อีกรอบ ก่อนจะหมดอายุในปี 2567
วางกลไกเอื้อประโยชน์ล่วงหน้าขนาดนี้ จะยอมละทิ้งความได้เปรียบนี้ง่ายๆ หรือ
นี่จึงเป็นอีกเหตุผลสำคัญ ที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมพล.อ.ประยุทธ์ยังจะฝืนไปต่อ
ทั้งที่ถ้าเลือกจะพอตั้งแต่วันนี้ ก็จะหยุดปัญหาขัดแย้งกับประชาชนที่รักประชาธิปไตย หยุดเสียงโจมตีถึงฝีมือการเป็นนายกฯ ที่ผ่านมา 8 ปีลงไปได้
แต่เมื่อสร้างทางพิเศษเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็เลยไม่ยอมทิ้งโอกาส
แต่สุดท้ายประชาชนผู้เลือกตั้งจะเป็นผู้ตัดสินว่า จะให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้กลไกที่ดีไซน์มาเพื่อตนเองได้อีกครั้งหรือไม่!?
วงค์ ตาวัน
