เรื่องใหญ่ของประชาชนคนไทยในวันนี้ คือปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและต่อสุขภาพโดยรวมเป็นอย่างมาก โดยที่เราก็ต้องป้องกันตัวเองกันไป ไม่มีใครมาช่วยแก้ไขอะไรให้

2 เดือนมานี้ ในหลายๆ วัน ท้องฟ้าขมุกขมัว ที่คิดกันว่าเป็นหมอกในหน้าหนาว แท้จริงแล้วคือฝุ่นละอองอันตราย ปกคลุมจนมืดมัว

ในทุกฤดูหนาว คนไทยเราต้องเผชิญปัญหาฝุ่นละอองมรณะมาหลายปีแล้ว ไม่เห็นว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำอะไรในเรื่องนี้เลย

ยิ่งในปีนี้ ในระยะนี้ เป็นช่วงที่กำลังเตรียมตัวเลือกตั้ง ออกหาเสียงแอบแฝงกันอย่างหนัก

ยิ่งไม่เห็นการทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะวิกฤตฝุ่นละอองขณะนี้ เห็นได้ชัดว่า รัฐบาลแทบไม่สนใจอะไรเลย

สภาล่มแทบทุกครั้งที่ประชุม ก็ไม่รู้จะอยู่กันไปทำไม ไม่คิดยุบสภา เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ให้ชัดเจน หรือเพราะยังลังเลว่าพรรคใหม่ที่เข้าไปสังกัด จะพร้อมจริงหรือไม่!?

วันก่อนส.ส.รังสิมันต์ โรม ได้ให้บทสรุปถึงรัฐบาลได้อย่างตรงเป้าว่า

ไม่คิดว่ามีรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่อีกแล้ว วันนี้มีแต่รัฐบาลหาเสียง








Advertisement

งานหลักของรัฐบาลไม่ใช่บริหารประเทศ แต่คือการหาเสียง งานเสริมคือการดูดส.ส. ส่วนงานพาร์ตไทม์ชั่วคราวก็มีบ้าง แล้วแต่จะเรียก

ฟังแล้วเห็นด้วย ใช่เลย

ไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้ว ว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ อย่างมาก!

กรณีปัญหาฝุ่นละอองมรณะ ถือว่าเป็นมหันตภัยร้ายแรงต่อชีวิตผู้คน

ขณะที่สถิติค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน ในเขตกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่เช่น เชียงใหม่นั้น ถึงขั้นติดอันดับต้นๆ ของโลก

กลายเป็นเมืองฝุ่นมหาภัยระดับโลกไปแล้ว!!

ที่คุยโม้ว่า รัฐบาลได้คลี่คลายสถานการณ์โควิด จนทำให้การท่องเที่ยวฟื้นกลับมาแล้วนั้น

มาเจอสถานการณ์ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ร้ายแรงติดอันดับเช่นนี้ ไม่กระทบการท่องเที่ยวเลยหรือ

เป็นข้อมูลที่ปรากฏรู้กันไปทั่วทั้งโลก

ยิ่งเมื่อพูดถึงโควิด ในวันนี้คนไทยเราเขาเปรียบเปรยกันว่า ต่อให้โรคระบาดโควิดหมดสิ้นไปแล้ว

คนไทยก็คงยังเดินเปิดหน้ากากอนามัยไม่ได้เป็นอันขาด

มาเจอฝุ่นละอองอันตราย อาจจะหนักหนายิ่งกว่าโควิดเสียอีก

นักท่องเที่ยวหลายๆ ชาติ เขาเปิดแมสก์เดินเหินไปไหนมาไหนได้ปกติในเมืองเขา ต้องใส่กันฝุ่นในบ้านเรา คงเซ็งกันชะมัด!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน