อ่านจากข่าว การสัมภาษณ์ประชาชนสาขาอาชีพต่างๆ ในหลายๆ พื้นที่ ภายหลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤษภาคม พบว่าคำตอบของชาวบ้านส่วนใหญ่ออกมาในแนวคล้ายกันคือ ดีใจว่าน่าจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ
โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เพื่อให้คนใหม่ๆ มีความสามารถ เข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาด ที่ประชาชนจะรู้สึกดีใจเมื่อมีการยุบสภา เพราะอย่างแรก คือ การคืนอำนาจกลับมาสู่มือประชาชน
ประการต่อมา ปัญหาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ของคนไทย เพราะปัญหาขัดแย้งการเมืองจนเกิดรัฐประหาร ฉุดทุกอย่างให้ล้าหลัง ตามซ้ำด้วยโรคระบาดโควิด ธุรกิจการค้าชะงักงัน รายได้หดหาย หนี้สินพอกพูน
แล้วรัฐบาลที่มีนายทหารมาเป็นผู้นำ ย่อมไม่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้โดยเร็ว
ดังนั้นความเห็นของประชาชนตามที่ปรากฏเป็นข่าว จึงพากันดีใจที่มีการยุบสภา จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้!!
ต้องยอมรับว่า อารมณ์ความรู้สึกของประชาชนต่อการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม
มีแนวโน้มต้องการการเปลี่ยนแปลง เป้าหมายคือพลิกฟื้นความเป็นอยู่
Advertisement
ผู้นำรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ถ้าอยากจะชนะการเลือกตั้ง ต้องหาอะไรใหม่ๆ มากู้คะแนนนิยมที่ถดถอยลงไป เพราะปัญหาปากท้องของชาวบ้านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ถ้าไม่มีอะไรเป็นทีเด็ด ก็ยากจะฝืนกระแสของประชาชน ที่ต้องการคนเก่งด้านเศรษฐกิจ
เลือกตั้ง 14 พฤษภาคมนี้ กระแสหลักคือ เศรษฐกิจ การฟื้นคืนมาของรายได้ เพื่อลืมตาอ้าปากได้เสียที!!
อีกทั้งแน่นอนว่า ความหมายของการยุบสภาคือการคืนอำนาจกลับมาสู่ประชาชน
เพื่อให้ประชาชนร่วมกันตัดสินใจกำหนดอนาคตประเทศ ผ่านการเข้าคูหากาบัตร
แถมวันเลือกตั้ง คือ วันที่ประชาชนไม่ว่ายากดีมีจน มีความเสมอภาค มี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน!
ความหมายของการยุบสภาและการเลือกตั้ง จึงมีความสำคัญสำหรับประชาชนเป็นอย่างมาก
แถมคราวนี้ ยังมีประเด็นที่ท้าทายอยู่อีกประการ
คือ เสียงของ 250 ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง ยังมีอำนาจกดข่มเสียงของประชาชนที่ไปเลือกตั้ง
ยกเว้นเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตย จนได้เสียงเข้าสภาท่วมท้น จนสามารถปิดสวิตช์ 250 ส.ว.ได้
ภาพรวมของวัน 14 พฤษภาฯ สำหรับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง นอกจากเป็นวันที่ทุกคนมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตแล้ว
ยังหมายถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่การฟื้นคืนเศรษฐกิจชีวิตปากท้อง
ไปจนถึงการทำให้เสียงของประชาชน 30-40 ล้านคน เหนือกว่าเสียง 250 ส.ว.จากการแต่งตั้งให้ได้!
วงค์ ตาวัน
