ชกไม่มีมุม - ประชานิยมเว่อร์หรือไม่ ต้องให้ประชาชนตัดสิน

ทุกพรรคการเมืองรู้ดีว่า ประเด็นใหญ่สุดสำหรับประชาชนผู้มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง คือ ต้องการรัฐบาลใหม่ ที่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องได้อย่างรวดเร็วที่สุด ด้วยเพราะต้องอยู่อย่างยากลำบากมายาวนานถึง 8-9 ปี

ดังนั้นทุกพรรคการเมือง จึงนำเสนอนโยบาย ในแง่การสร้างรายได้ การกระตุ้นเศรษฐกิจให้เฟื่องฟู

จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีแต่นโยบายประชานิยม มีแต่การแจกเงินให้ประชาชน

แล้วกลายเป็นข้อสรุปที่ว่า หาเสียงกันจนน่าห่วงว่า ประเทศจะล่มจม ทำให้ประชาชนกลายเป็นคนนั่งแบมือรับเงิน

เสียงวิจารณ์เหล่านี้ มีส่วนถูกต้อง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

เพราะนโยบายของบางพรรค มีการแจกเงิน พร้อมมีคำอธิบาย จะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไรบ้าง จะก่อเกิดประโยชน์ในระยะต่อไปอย่างไรบ้าง!

ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับความจริงด้วยว่า ปัญหาเศรษฐกิจในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนโดยรวมอยู่ในสภาพยากไร้

จนจำเป็นอย่างมาก ที่รัฐบาลหน้า จะต้องหาแนวทางพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้รวดเร็ว และทุกทางเพื่อให้ประชาชนได้หายใจหายคอบ้าง

หน้าที่ของรัฐบาลในการดูแลความเป็นอยู่ประชาชน จะตีความว่าเป็นประชานิยมไปทั้งหมดคงไม่ถูกต้อง!?

เป็นความจริงที่ว่า นโยบายของบางพรรคการเมืองนั้น ก็แจกเงินกันอย่างเลื่อนลอย

แต่บางพรรคการเมือง แจกอย่างมีเป้าหมาย มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงต้องแยกแยะให้ดี!!

อย่างกรณีพรรคเพื่อไทย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ชูนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล เติม 10,000 บาทให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป

ใช้จับจ่ายสินค้าในรัศมี 4 กิโลเมตรจากที่อยู่ ต้องใช้ให้หมดใน 6 เดือน และเป็นการแจกครั้งเดียว

กลายเป็นนโยบายที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้

ส่งผลสะเทือนต่อคะแนนนิยมอย่างสูง จนทำให้พรรคการเมืองอื่นๆ แห่กันวิจารณ์ในแง่ลบอย่างหนัก

ที่สำคัญ บรรดา “นักร้อง” ขยันกันทันที ทั้งที่นโยบายหาเสียงต่างๆ มีขั้นตอนของกกต.กำหนดเอาไว้อยู่แล้ว ต้องมีการอธิบายที่มาของเงินงบประมาณและจะนำไปสู่อะไร

แต่เหนืออื่นใด นโยบายของเพื่อไทยหรือของพรรคการเมืองต่างๆ คือการนำเสนอเพื่อให้ประชาชนนำไปตัดสินใจในวันเลือกตั้ง

การเลือกตั้ง คือ การคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ

จะประชานิยมจัด ประชานิยมเว่อร์ ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน!!

นักคิดนักวิชาการต้องช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์เป็นข้อมูลอีกด้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้รับรู้ประกอบการตัดสินใจ

แต่คนตัดสินสุดท้ายต้องเป็นประชาชน ไม่ใช่นักร้องหรือองค์กรอะไรก็ตาม!?

วงค์ ตาวัน