ถ้าไม่มีการเล่นนอกลู่นอกกติกา หากทุกอย่างเป็นไปตามครรลองการเลือกตั้ง เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย ก็น่าจะทำนายแนวโน้มได้ว่า หลัง 14 พฤษภาคม ประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามวิถีประชาธิปไตยแน่นอน
น่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นด้วย คือ ไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม!
เพราะความจริงที่มองเห็นได้ จากบรรยากาศที่ประชาชนแสดงการสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเดิมอย่างเข้มข้นจริงจัง
แสดงผ่านโพล แสดงผ่านเวทีปราศรัยหาเสียง แสดงผ่านโซเชี่ยลมีเดีย
เป็นช่วงกระแสสูงของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจริงๆ
กระแสนิยมหัวหน้าพรรคก้าวไกลและเวทีของก้าวไกลอย่างมืดฟ้ามัวดิน ขณะที่กระแสนิยมพรรคและแนวโน้มส.ส.เขต ก็เป็นเพื่อไทยชนิดแลนด์สไลด์!!
คำถามก็คือ ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
จุดที่ผู้คนมากมายมหาศาลยืนยันจะสนับสนุนพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่โดดเด่นทั้งสองพรรค
จุดที่ประชาชนปฏิเสธพรรคลุงๆ อย่างชัดแจ้ง
น่าเชื่อว่า พรรคที่อยากจะอยู่ต่อ น่าจะได้ส.ส.ในระดับต่ำกว่าครึ่งร้อย
ส่วนพรรคประชาธิปไตยเพื่อปากท้องเกินกว่า 250 และพรรคประชาธิปไตยรุ่นใหม่น่าจะพุ่งไปใกล้ร้อย!!
แล้วเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ก็เพราะการทำลายประชาธิปไตยอย่างหน้ามืดตามัวของเครือข่ายอำนาจขุนศึกขุนนาง
ผ่านม็อบขวางประชาธิปไตย ม็อบนกหวีด ไม่ยอมรับการยุบสภา ขัดขวางการเลือกตั้งอย่างน่ารังเกียจที่สุด
ที่สำคัญคือทำทุกอย่างเพื่อให้สถานการณ์ไปสู่การเกิดเงื่อนไขรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 !!
ทำให้ได้รัฐบาลทหาร 5 ปี ตามด้วยรัฐบาลที่มี 250 ส.ว.ยกมือให้อีก 4 ปี
ครอบครองอำนาจเสียจนประชาชนอดอยากปากแห้ง เพราะรู้แต่ความมั่นคง ไม่ประสีประสาด้านเศรษฐกิจ ทำให้ปากท้องประชาชนยากลำบาก
9 ปีเกินจะทนแล้ว จึงทำให้เกิดกระแสอันเชี่ยวกรากในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
กระแสสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงการเมือง เปลี่ยนรัฐบาล เพราะแทบจะทนกันไม่ไหวแล้ว
ทำให้พรรคประชาธิปไตยแก้ไขปากท้องมาแรงสุด ตามด้วยพรรคประชาธิปไตยเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมือง
เพราะม็อบและรัฐประหาร 2557 รวมถึงรัฐบาล 8-9 ปีที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการของประชาชนมาถึงจุดร้อนแรงในวันนี้!!
วงค์ ตาวัน