สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คอบอลได้สนุกสนานกับนัดปิดฤดูกาลของบอลลีกต่างๆ ในยุโรป ซึ่งเป็นลีกที่มีมาตรฐานสูง ทำให้ดูสนุก ยิ่งนัดท้ายมักเป็นนัดตัดสินให้ได้ลุ้นกันแบบใจหายใจคว่ำ

พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่คนไทยนิยมดูมากที่สุด สำหรับฤดูกาลนี้ ทีมแชมป์ ทีมโควตาถ้วยยุโรป ลงตัวไปก่อนแล้ว นัดสุดท้ายกลายเป็นการลุ้นของทีมหนีตายหนีตกชั้น

ขณะที่บุนเดสลีกา เยอรมัน เร้าใจอย่างมากในนัดปิดฤดู ต้องลุ้นใครเป็นแชมป์ระหว่าง บาเยิร์น มิวนิก กับ ดอร์ตมุนด์

ระหว่างเกมของทั้งสองสนาม เกิดสถานการณ์พลิกไปพลิกมา สนุกสนานตื่นเต้นอย่างมาก

สุดท้ายดอร์ตมุนด์ที่ได้เปรียบกว่า กลับทำได้แค่ 1 แต้ม ส่วนบาเยิร์นเก็บ 3 แต้มสำเร็จ เลยจบที่ 71 แต้มเท่ากัน ต้องมาวัดกันลูกได้เสีย ทำให้บาเยิร์นคว้าแชมป์อย่างฉิวเฉียด

นั่งดูอย่างสนุกเร้าใจ ผลการแข่งมีกติกาชัดเจน ไม่มีอะไรให้ติดค้างถกเถียงอีก รับถ้วยรับถาดแชมป์ ฉลองกันได้ทันทีหลังเกมจบ!

คนไทยนั่งดูนัดปิดฤดูกาลของบอลลีกยุโรป เห็นนาทีฉลองแชมป์กัน

คงอดคิดไม่ได้ ทำไมไม่เหมือนผลการเลือกตั้งบ้านเรา

เลือกตั้งเสร็จ เห็นผลชัด ประชาชนเลือกใครเลือกพรรคไหน ชนะแพ้กันอย่างไร แต่ไม่จบ!?

พรรคที่ชนะจับมือจับขั้วตั้งรัฐบาลได้รวดเร็ว ตัวเลขส.ส. เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพอย่างมาก

แต่ยังไม่รู้ว่า 250 ส.ว.เขาจะยอมให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคชนะ ได้เป็นนายกฯ หรือไม่!?!

ฟุตบอล ตัดสินกันด้วยฝีเท้าของนักเตะฝั่งละ 11 คน มีกรรมการคุมเกมคุมกฎกติกา

แต่พอเสียงนกหวีดเป่าจบ ก็รู้เลยว่าใครคือแชมป์ แม้แต้มจะเท่ากัน ก็ไปนับที่ลูกได้ลูกเสีย ซึ่งเป็นกติกาที่วางไว้ชัดเจนอยู่แล้ว

ไม่ต้องมีคณะอะไรอีกไม่รู้ 250 คน มาร่วมพิจารณาอีกทอด ว่าจะให้ใครเป็นแชมป์!

หรือย้อนไปในอดีต เกมการเมืองในบ้านเรา มีการเล่นนอกกติกาประชาธิปไตยมาตลอด

บอลแพ้ ก็เอากองเชียร์ลงไปชัตดาวน์สนาม ห้ามแข่ง

อ้างไปเรื่อย ต้องปฏิรูปก่อนแข่งขัน

ลงเอยให้คณะรปภ.ถืออาวุธเข้ามายึดสนามล้มกระดาน!

ความสนุก ความเร้าใจ ภายใต้การมีส่วนร่วมของประชาชนคนดู สูญหายไปยาวนาน

พอกลับมาเปิดการแข่งขันใหม่ คราวนี้ผลการแข่งจบ แต่การตัดสินแชมป์ไม่จบ มีอีก 250 คนมาตัดสินต่อ

การแข่งขันที่ไม่ตรงไปตรงมา กติกาที่ยอกย้อน การเมืองไทยไม่เหมือนใครในโลกจริงๆ!!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน