การทำงานของตำรวจ โดยเฉพาะในสายสืบสวนปราบปราม หลีกเลี่ยงไม่ได้กับการพบปะผู้คนในทุกแวดวง ไม่เว้นกระทั่งโจร นักเลง มือปืน เจ้าพ่อมาเฟีย เพื่อนำไปสู่การสร้างสายข่าว การหาข้อมูลข่าวสารในเครือข่ายอาชญากร
เนื่องจากตำรวจที่ทำงานด้านสืบสวน ด้านปราบปรามโจรผู้ร้าย จะเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในห้องทำงาน อยู่แค่ในห้องแอร์ไม่ได้
ต้องลงคลุกคลี ต้องสัมผัสความจริงในสังคม ในชุมชน ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ
เพียงแต่จะต้องตระหนักไว้เสมอว่า เป็นการเข้าสู่แวดวงสังคมทั้งมืดและสว่าง ในฐานะเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่องานสืบสวนหาข่าว
ไม่ใช่ไปสนิทชิดเชื้อกับใครคนใดคนหนึ่งเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ จนกระทั่งกลายเป็นหนี้บุญคุณ หรือกลายเป็นคนใกล้ชิดเป็นคนรับใช้ผู้มีอิทธิพล
แล้วที่สำคัญ เหล่าเจ้าพ่อมาเฟียนั้น ล้วนพัวพันเรื่องผิดกฎหมาย หารายได้จากธุรกิจนอกระบบ จนกลายเป็นผู้ร่ำรวยผู้มากบารมี!
ดังนั้นตำรวจจะต้องวางตัวให้เหมาะสม มีระยะห่างพอดี
ต้องวางตัวให้คนเหล่านั้นเกรงกลัวเกรงใจ และอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินทองสกปรก
เหตุการณ์ใหญ่ในวันนี้ เหตุฆ่าสารวัตรทางหลวง ในบ้านกำนันนก ผู้มีอิทธิพลแห่งนครปฐม เป็นตัวอย่างเตือนใจตำรวจอย่างดี!
เพราะมีตำรวจกว่า 20 นายเข้าไปนั่งกินดื่มอยู่ในนั้น แล้วเกิดเหตุมือปืนลูกน้องกำนันฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไม่เกรงอกเกรงใจ
นั่นเป็นเรื่องเสียหายต่อตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ทำให้ภาพรวมตำรวจถูกวิจารณ์ในทางเสียหายอย่างหนัก!!
การที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล 2 รองผบ.ตร. ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา
ทั้งตัวกำนันผู้มีอิทธิพล ลูกน้องเครือข่าย รวมทั้งตำรวจที่ร่วมกระทำผิด
ทั้งตรวจสอบด้านเงินทอง ธุรกิจผิดกฎหมาย อาจจะนำไปสู่การยึดทรัพย์ด้วย
ทั้งยังให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการเอาผิดทางวินัยกับตำรวจที่เกี่ยวข้องอีกทาง
คดีนี้จึงเป็นคดีตัวอย่าง เป็นบทเรียนให้ตำรวจทั้งหมดได้รับรู้!
แน่นอนว่า ตำรวจยังต้องมีวิถีทำงานในการเข้าถึงผู้คนทุกส่วน ไม่เว้นด้านมืด
แต่ถ้าวางตัวไม่ถูกต้อง ไปรับเงินทอง เรียกส่วย สุดท้ายก็หมดอนาคต
ยิ่งประเภทเจ้าพ่ออายุน้อย เหิมเกริมผิดปกติ พร้อมจะก่อเรื่องรุนแรงอย่างสิ้นคิด เช่น กรณีกำนันนกนี้
เข้าไปคลุกคลี ไปร่วมวงกินดื่ม ย่อมเสี่ยงจะเกิดเรื่องรุนแรงตลอดเวลา
เพียงแค่นี้ก็ต้องรู้แล้วว่า ต้องมีระยะห่างมากๆ อย่าไปร่วมโต๊ะจีนเป็นอันขาด!
วงค์ ตาวัน
