สอดรับกันพอดี เมื่อยูเนสโกมีมติ ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จากการประชุมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา

ที่ว่าสอดรับพอดี เพราะก่อนหน้านี้ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กำลังผลักดันงานใหญ่

เตรียมจัดใหญ่งานสงกรานต์ปีหน้า ภายใต้งานสงกรานต์ เฟสติวัล ตลอดเดือนเมษายน 2567

แน่นอนว่าเป้าหมายคือ กระตุ้นการท่องเที่ยว เอาสงกรานต์ไทยมาเป็นจุดดึงดูด ตั้งเป้าจะเรียกนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้ราว 35 ล้านคน เพื่อสร้างรายได้ 40,000 ล้านบาท กระจายสู่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

เมื่อมาได้คำประกาศจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม

เช่นนี้ สงกรานต์ไทย ที่จะผลักดันให้เป็นเฟสติวัลโลก มีโอกาสจะประสบความสำเร็จมากทีเดียว!

คำว่าสงกรานต์เฟสติวัล จัดตลอดเดือนเมษายนหน้า

โดนตีความในแง่ร้ายทันที ว่านี่จะเล่นสาดน้ำกันตลอดทั้งเดือนเลยหรือ








Advertisement

แล้วขยายความในทางผิดๆ กันต่อไปอีกว่า ปีนี้สภาพแล้งรุนแรง จะเอาน้ำที่ไหนมาสาดกันได้ทั้งเดือน!?!

ทั้งยังขยายต่อไปอีกว่า จะปิดถนนเล่นน้ำกันทั้งเดือน จะกระทบธุรกิจการค้า การเรียนการสอนของเด็กๆ หรือไม่

โดยไม่ดูข้อเท็จจริงว่า การจัดสงกรานต์เฟสติวัลนั้น ไม่ใช่การเล่นน้ำตลอดทั้งเดือนแต่อย่างใด!

แต่จะเป็นการจัดงานรื่นเริง อิงกับประเพณีเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดต่างๆ

เช่น งานสงกรานต์กรุงเก่า ประเพณีปีใหม่เมืองและประตูท่าแพ งานอันดามันสงกรานต์เฟสติวัล เทศกาลดอกคูนเสียงแคน งานวันไหลนาเกลือ งานวันไหลบ้านบึง อะไรเหล่านี้

จะทยอยจัดเทศกาลสงกรานต์ไปในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

หวังจะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ร่วมสนุกนานกับเทศกาลอันโดดเด่นของแต่ละจังหวัด

เดินทางท่องเที่ยวร่วมเทศกาลไปในทุกพื้นที่ เพื่อกระจายรายได้ไปทั่วประเทศ

ส่วนที่สาดน้ำกันจริงๆ ก็คงช่วงวันที่ 13-14-15 เมษายน

เพราะถ้าคิดพิลึกเล่นสาดน้ำกันตลอดเดือนเมษายน ก็คงตัวเปื่อยไปตามๆ กันอย่างแน่นอน

โดยปกติ ในทุกฤดูร้อน ประเทศไทยเราก็เป็นจุดจูงใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่แล้ว

เที่ยวท้องทะเล นอนริมหาด รวมทั้งสงกรานต์แก้ร้อนนี่แหละ

เพียงแต่ปี 2567 นี้ คาดหวังกันว่าจะทำให้สงกรานต์ฟื้นการท่องเที่ยวให้ได้ ดึงรายได้เข้ามาเพื่อแก้ปากท้องประชาชน!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน