ปัญหาฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 กำลังมาแรง คุกคามชีวิตและสุขภาพของประชาชนอย่างหนัก โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร มีสภาพฝุ่นละอองเข้าขั้นวิกฤต ดังนั้นแม้ว่าโรคระบาดโควิดจะคลี่คลายไปมาก จนผู้คนเริ่มสวมใส่หน้ากากอนามัยลดน้อยลงไป
จึงต้องย้ำเตือนว่า ควรจะต้องใส่กันต่อไป เพื่อกรองอากาศ กันฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่เป็นภัยร้ายอีกตัว
สำหรับพื้นที่กทม. มีข้อมูลชี้ปัญหาของเมืองใหญ่ในเรื่องฝุ่นละออง กว่า 70% ต้นเหตุมาจากรถยนต์
ทั้งนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ก็ระบุว่า มาจากรถยนต์ พื้นที่ไหนที่มีการจราจรแออัดหนาแน่นบวกกับสภาพอากาศที่กดลงมามากทำให้อากาศไม่ถ่ายเทจะมีปัญหารุนแรง
โดยเฉพาะรถเครื่องยนต์ดีเซลที่อายุเกิน 7 ปี ตอนนี้มีอยู่ 1 ล้านคัน
จึงต้องขอความร่วมมือให้รถดีเซลอายุเกิน 7 ปี ต้องไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และไส้กรอง!
เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถดังกล่าว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และตัวแทนจากค่ายรถยนต์และผู้ค้าน้ำมัน
จัดโครงการลดปริมาณฝุ่นละอองจากยานยนต์
ทั้งผู้ค้าน้ำมันและค่ายรถยนต์ได้มีโปรโมชั่นส่วนลดสำหรับลูกค้าในการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการ เปลี่ยนไส้กรองอากาศ ไส้กรองน้ำมัน การเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน
โดยเฉพาะผู้ใช้รถดีเซลเก่า คงต้องร่วมมือ จะมีส่วนสำคัญมากในการลดปัญหาฝุ่นมรณะ
ถือว่าภาครัฐก็พยายามอำนวยความสะดวกจากโครงการลดราคาเป็นพิเศษในระยะนี้
ขณะเดียวกัน ภาครัฐเองยังต้องเร่งหามาตรการแก้ไขในด้านอื่นๆ ด้วย
อีกทั้งรู้กันดีว่า การแก้ปัญหายังต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ออกเดินเท้าไปยังแยกราชประสงค์ สัมผัสปัญหานี้เอง!
โดยนายกฯ กล่าวว่า ปัญหานี้ก็เกิดขึ้นทุกปี ไม่ได้นิ่งนอนใจ ประชุมเร่งรัดทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้คิกออฟรณรงค์หยุดเผาป่า การเผาซากพืชผล
ส่วนการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมแก้ไขปัญหานั้น ถือว่าเป็นประเด็นสำคัญ!!
นายกฯ ย้ำว่า ในส่วนลาวมีการพูดคุยอย่างดี เพราะเอกชนฝ่ายไทยก็มีการลงทุนปลูกพืชผลทางการเกษตรในลาว เพื่อนำกลับมาขายในไทย ได้พูดคุยกับเอกชนว่าจะต้องเก็บภาษี เพื่อนำเงินนี้มาแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเผา
ขณะที่ประเทศเมียนมา ฝ่ายทหารของไทยได้เข้าไปพูดคุยเจรจา ปัญหาการเผาป่า
ต้องดูผลกันต่อไปว่ารัฐจะช่วยให้คลี่คลายลงได้หรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาจากชายแดน
ประชาชนก็ต้องช่วยกัน โดยเฉพาะผู้ใช้รถเก่าในพื้นที่กทม.!!
วงค์ ตาวัน
