เป็นข่าวใหญ่ของวงการธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจการค้า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน ร่วมลงนามความตกลงสำคัญ
ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นวีซ่า สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ จะมีผลในวันที่ 1 มีนาคม
ถือเป็นการเปิดวีซ่าฟรีแบบถาวร ของทั้งสองประเทศ
เป็นการยกระดับความสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากเมื่อตอนที่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาบริหารงานใหม่ๆ เริ่มใช้มาตรการนี้เพื่อดึงดูดนักท่องที่ยว
โดยเปิดวีซ่าฟรีชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน มีผลตั้งแต่ 25 กันยายน 2566 จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567
เป้าหมายของนายกฯ เศรษฐาคือ เปิดกว้างรับนักท่องเที่ยวจีน มาบัดนี้ไปอีกขั้นคือ เปิดวีซ่าฟรีถาวรให้กับทั้งคนจีนเข้ามาไทยและคนไทยไปจีน!
เท่ากับว่า เมื่อถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงเวลาวีซ่าฟรี จะหมดอายุลง
พอวันที่ 1 มีนาคม ก็ต่อเนื่องไปเลย
เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ ความไว้วางใจ ทำให้การเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวหรือธุรกิจ จะสะดวกยิ่งขึ้น!
แน่นอนว่าจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะไทยเราเตรียมตัวรับกองทัพนักท่องเที่ยวจากจีนได้เลย
ระหว่างนี้ก็เปิดวีซ่าฟรีอยู่แล้ว จึงน่าเชื่อว่าตรุษจีนต้นกุมภาพันธ์ ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยน่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีนอย่างคึกคักยิ่ง!!
การกระชับสัมพันธ์ครั้งนี้ ยังไม่แค่การท่องเที่ยว การค้าการลงทุน แต่ยังคลุมอีกหลายเรื่อง
ฟังจากนายหวัง อี้ ได้กล่าวว่า จากนี้การแลกเปลี่ยนของประชาชนทั้ง 2 ประเทศจะกลับมาพุ่งสูงครั้งใหม่
จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยก็จะเพิ่มมากขึ้น และทางจีนก็ยินดีต้อนรับคนไทยมาเที่ยวด้วย
ไม่เท่านั้นด้านการค้า กำลังจะเซ็นสัญญาส่งออกเนื้อสัตว์และต้นสนจากไทยไปยังประเทศจีน จะมีการนำเข้าสินค้าเกษตรของไทยมายังจีนมากยิ่งขึ้น
ทั้งสนับสนุนให้บริษัทจีนมาลงทุนในไทย โดยเฉพาะด้านรถยนต์ไฟฟ้า เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว
สำคัญอีกอย่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีนบอกด้วยว่า
จะมีการพัฒนาความร่วมมือกฎหมายความมั่นคง ปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงทางโทรศัพท์ การพนันออนไลน์ และการค้ายาเสพติด
เท่ากับว่าจะคลุมไปถึงการปราบแก๊งคอล แก๊งพนันออนไลน์ ภัยร้ายแห่งยุคด้วย
แต่สำคัญสุดและมีผลต่อเศรษฐกิจไทยที่สุด คงเป็นการท่องเที่ยวของคนจีน
ธุรกิจของคนไทย เตรียมรับมือกันครั้งใหญ่ได้แล้ว!!
วงค์ ตาวัน