ความที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตกเป็นข่าวใหญ่หลายข่าว โดยเฉพาะล่าสุดกรณีจับกุมขบวนการร้องไปรีดไป พอเกิดเหตุเพลิงไหม้ ย่อมทำให้ผู้คนในสังคมระแวงสงสัยว่า เป็นไฟไหม้เพื่อทำลายเอกสารหลักฐานอะไรหรือไม่

แต่บทสรุปล่าสุดของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจด้วยตัวเอง

ยืนยันได้ว่า เป็นเหตุไฟฟ้าลัดวงจร โดยปรากฏร่องรอยชัดเจนที่รางเก็บสายไฟภายในห้องครัว เป็นสายไฟเสื่อมสภาพ เมื่อเกิดความร้อนสูงทำให้เกิดประกายไฟขึ้น

แน่นอนว่า ผลสรุปเช่นนี้ ย่อมมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมา โดยชาวบ้านก็คงไม่เชื่อ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติของสังคม

เพียงแต่กองพิสูจน์หลักฐาน ย่อมมีผลสรุปอย่างเป็นทางการ เป็นวิทยาศาสตร์ มีรายละเอียดการตรวจพิสูจน์ยืนยัน ในยุคปัจจุบันจะไปสรุปมั่วๆ ก็คงติดคุกกันระนาว

เช่นนี้แล้วก็ต้องยอมรับผลสรุปของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่การวางเพลิง ไม่มีการเมืองแต่อย่างใด!

กระแสสังคมที่มองไว้ก่อนว่าคงวางเพลิงทำลายหลักฐาน มาจากความฝังใจในอดีต ที่เคยเกิดเหตุเผาอาคารหน่วยราชการซึ่งกำลังอื้อฉาวเรื่องทุจริต

แต่นั่นเป็นเรื่องเมื่อ 40-50 ปีก่อน

ขณะที่ยุคปัจจุบัน กระบวนการตรวจพิสูจน์หลักฐาน พัฒนาก้าวหน้าหาหลักฐานยืนยันได้ว่าสาเหตุเพลิงไหม้มาจากอะไร ต้นเพลิงอยู่ตรงไหน ถ้ามีคนเผาก็บอกได้ว่าวางเพลิงแน่ๆ!!

ยุคนี้ยังมีกล้องวงจรปิดเก็บหลักฐาน คนเข้าออกจุดเกิดเหตุได้หมด

สำคัญสุดระบบเก็บเอกสารสำคัญของราชการ เป็นยุคดิจิทัล ยุคคอมพิวเตอร์ จะเผาอย่างไรก็ค้นหาได้ไม่ยาก!

ดังนั้น ในปัจจุบันใครจะคิดวางเพลิงสถานที่ราชการเพื่อทำลายเอกสารทุจริต คงเป็นคนที่เชยล้าหลังอย่างมาก และสุดท้ายไม่สามารถกลบเกลื่อนอะไรได้

ดังเช่นเหตุที่กระทรวงเกษตรฯ นี้ มีคำอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ได้ไม่ยาก

มีการเปิดหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด เห็นคนเดินเข้าออกในบริเวณต้นเพลิง ก็ไม่พบว่ามีใครที่น่าสงสัยมีพิรุธ

รวมทั้งจุดเพลิงไหม้นั้น ใกล้ห้องทำงานของนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ ซึ่งเจ้าตัวย้ำว่า อย่าได้โยงการเมืองเลย

เพราะตนเองไม่ได้รับผิดชอบกรมการข้าวที่กำลังมีเรื่องกรณีแก๊งพี่ศรี

อีกทั้งยุคนี้ เอกสารต่างๆ เก็บอยู่ในระบบอิเล็กทรอนิกส์หมดแล้ว ไม่มีผลกระทบจากไฟไหม้แน่นอน

จึงไม่มีความจำเป็นต้องเผาบ้านตัวเอง!

ก็คงต้องเข้าใจคนในสังคม ที่เห็นกระทรวงเกษตรฯ กำลังดัง ทั้งปราบหมูเถื่อน เนื้อเถื่อน ยางพาราเถื่อน แล้วก็แก๊งนักร้อง

จึงอดตีความไม่ได้ว่าไฟไหม้มีเบื้องหลัง

แต่สุดท้ายต้องรับฟังผลสรุปที่เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นหลักเป็นฐาน อย่าเอาแต่เชื่อไปตามกระแส!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน