กฎกระทรวงสาธารณสุขที่มีผลบังคับใช้แล้ว ให้ถือว่าคนครอบครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด เป็นผู้เสพ เป็นผู้ป่วย หากยอมเข้าบำบัดรักษา จะไม่มีโทษทางอาญา ทั้งนี้เจตนาเพื่อแยกคนเสพออกจากคนค้า ไม่ให้นักโทษล้นคุก และหากนำคนเสพไปรักษาจนหายขาด ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติในสังคม
เป็นแนวทางที่น่าสนับสนุน มีการแยกแยะ และให้โอกาสคนที่เสพติด ไม่ใช่นักค้า
เพียงแต่ต้องย้ำเตือนกับกระทรวงสาธารณสุขว่า ที่ผ่านมา มาตรการนำคนเสพไปบำบัดนั้น มีข้อบกพร่อง สถานบำบัดและเจ้าหน้าที่รองรับไม่เพียงพอ!!
เมื่อตำรวจนำตัวไปส่งบำบัด ก็ติดๆ ขัดๆ บางทีรีบปล่อยตัวกลับ ยังไม่หายขาด คราวนี้กลับบ้านก็ไปเสพใหม่ ไปอาละวาดปั่นป่วนในชุมชนเหมือนเดิมอีก
ชาวบ้านจึงไม่ค่อยเชื่อถือมาตรการบำบัด เอาแต่เรียกร้องให้จับเข้าคุกไปให้หมด ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่การแก้ปัญหา เพิ่มนักโทษจนล้นคุก
แต่ความที่ชาวบ้านไม่เชื่อมั่น เมื่อเพิ่มจากเดิมครอบครอง 1 เม็ดเป็นผู้เสพ มาขยายเพิ่มเป็นไม่เกิน 5 เม็ด จึงยิ่งวิจารณ์กันหนัก!
ส่วนใหญ่มองว่า เพิ่มเป็นไม่เกิน 5 เม็ดจะเป็นช่องโหว่ให้ผู้ค้า พกพาแค่ 5 เม็ดไปส่งลูกค้า
แต่ความจริงมองในแง่ร้ายเกินไป
ที่สำคัญรายที่ตำรวจสืบรู้อยู่แล้วว่า เป็นคนเดินยาเป็นนักค้าแน่นอน อย่างนี้มีแค่เม็ดเดียวก็จับกุมดำเนินคดีได้!
ขณะเดียวกัน ประเด็น 1 เม็ดหรือ 5 เม็ด เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาคนติดยา
จุดหลักของการจัดการยาเสพติด ยังต้องเป็นการสืบจับ ปราบปราม และยึดทรัพย์นายทุนแก๊งค้ายา
วันก่อนนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์ต่อเสียงวิจารณ์ว่า 5 เม็ดอาจมากเกินไปนั้น ก็ต้องดูกันต่อไป พร้อมรับฟังและสามารถแก้ไขได้
แต่จุดใหญ่คือ การจับกุมและตัดวงจรการค้ายาจากชายแดน
นายกฯ ย้ำว่า ที่ผ่านมามีการจับหลายร้อยล้านเม็ด รวมทั้งระยะเวลาการทำลายยาเสพติดของกลางจะทำให้เวลาสั้นลง เพื่อหยุดยาบ้าให้ได้
อันที่จริงก็ต้องยอมรับว่า ยุครัฐบาลเศรษฐา ใช้เวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าได้อย่างสูงลิ่ว
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลเศรษฐาอาศัยสัมพันธ์อันดีกับกองทัพ
ได้ใช้กลไกทหารร่วมสกัดจับการนำเข้ายาเสพติดในภาคเหนือและภาคอีสานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ก็ต้องแปลกใจ ที่ราคายาบ้าไม่ได้แพงขึ้น แสดงว่ายังมีทะลักเข้ามาในจุดอื่น
ล่าสุดพบแล้วว่า หลุดรอดเข้ามาทางชายแดนตะวันตกแทน!!
อาศัยความชุลมุนจากสถานการณ์สงครามในประเทศเพื่อนบ้านนั่นเอง
จับตาดูแนวรบใหม่ด้านตะวันตก จะตัดวงจรนำเข้ายาบ้าได้เด็ดขาดหรือไม่!?!
วงค์ ตาวัน
