การประชุมครม.สัปดาห์นี้ เป็นครม.สัญจรย้ายไปจัดที่จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นเมืองที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าถิ่น ยึดครองสส.ทั้งจังหวัด โดยแน่นอนว่า การยกครม.มาประชุมที่จังหวัดนี้ เป็นการให้ความสำคัญอย่างสูง และน่าจะส่งผลให้มีการยกระดับขยับขยายอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย
น่าสนใจว่า รัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ให้น้ำหนักกับพื้นที่ของร.อ.ธรรมนัสอย่างมาก!
แถมก่อนหน้านี้ ช่วงที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับบ้านเกิดเชียงใหม่ ก็มีร.อ.ธรรมนัสไปรอรับใกล้ชิด
ทำเอาเกิดเสียงวิจารณ์หลายแง่มุม ด้วยความที่ร.อ.ธรรมนัสเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่คนของพรรคเพื่อไทย แต่มารอรับใกล้ชิดทักษิณ
บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ลึกล้ำเป็นพิเศษของร.อ.ธรรมนัสกับเพื่อไทย
แต่ก็นั่นแหละ ร.อ.ธรรมนัสชี้แจงว่า ที่ไปรับทักษิณ เพราะเป็นช่วงมาเตรียมงานจัดครม.สัญจรที่พะเยานั่นเอง!!
ขณะเดียวกัน การจัดครม.สัญจรครั้งนี้ น่าจะส่งผลดีต่อจังหวัดพะเยาอย่างมาก
พื้นฐานของพะเยานั้น มีกว๊านพะเยาที่รู้จักกันดี เป็นที่ท่องเที่ยว และเป็นแหล่งปลาหลากหลายพันธุ์ ร้านอาหารขึ้นชื่อลือชา
รวมทั้งมีสวนยางพาราจำนวนมาก มีโคขุนดอกคำใต้ที่โด่งดัง
มีข่าวกระเส็นกระสายว่า มีความพยายามจะจัดแบ่งเขตจังหวัดครั้งใหม่ โดยพะเยาอาจจะมีอำเภอมาเพิ่มมากขึ้น
ถ้าจังหวัดใหญ่ขึ้น มีจำนวนอำเภอมากขึ้น ก็หมายถึงเขตเลือกตั้งและจำนวนสส.ก็จะมากขึ้นด้วยเช่นกัน!
ถ้าร.อ.ธรรมนัสทำได้สำเร็จ ยกระดับจังหวัดได้กว้างใหญ่
ย่อมหมายถึงบารมีทางการเมืองที่แผ่กว้างกว่าเดิม
ดีไม่ดีอาจยกระดับทางด้านเศรษฐกิจ ถึงขั้นสร้างสนามบินในจังหวัดนี้ก็เป็นได้!!
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคเหนือ รวมทั้งเพื่อเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย
สอดรับกับนโยบายของนายกฯ เศรษฐา ที่ประกาศให้ไทยเป็นฮับการบินในภูมิภาคนี้
รวมทั้งรองรับการขยายการจัดการท่องเที่ยวแบบร่วมกันทั้งอาเซียนด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายกฯ เศรษฐาเพิ่งประกาศนโยบายเรือธง ปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ทั้งหลายทั้งปวง รัฐบาลเศรษฐาคาดหวังการท่องเที่ยว ว่าจะเป็นตัวสร้างเศรษฐกิจ แก้ปากท้องของประชาชนคนไทยอย่างได้ผล
เอาเป็นว่าครม.สัญจรพะเยาครั้งนี้ น่าจะนำไปสู่อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย ในการสร้างเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภาคเหนือ
ส่วนอนาคตทางการเมืองของร.อ.ธรรมนัสจะเดินไปทางไหนอย่างไร ต้องจับตากันต่อไป!?!
วงค์ ตาวัน
