เป็นเรื่องที่ไม่ควรเสียเวล่ำเวลา ปัญหาประเทศชาติมีอยู่มากมาย รอให้ครม.เศรษฐา ทวีสิน 1/1 เร่งทำงานแก้ไขคลี่คลาย ดังนั้นเมื่อนายปานปรีย์ พหิทธานุกร จะน้อยใจที่เหลือแค่ตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่ได้ควบรองนายกฯ จนต้องลาออก

จึงถูกต้องแล้วที่นายกฯ เศรษฐา จะเลือกหาคนมาทำหน้าที่แทนอย่างฉับพลันทันที

การเลือกนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตทูตหลายประเทศ เชี่ยวชำนาญงานอย่างสูง มาทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงถือว่าถูกต้องที่สุด

ที่ผ่านมาอดีตทูตมาริษ ก็ทำงานในรัฐบาลเศรษฐาอยู่แล้ว

โดยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของนายปานปรีย์ รมว.ต่างประเทศ

เลือกได้ถูกคนและไม่ต้องรอช้าเสียเวลา เชื่อว่าอดีตทูตมาริษ จะทำหน้าที่นำประเทศไทยโดดเด่นบนเวทีโลกได้ต่อเนื่องต่อไปแน่นอน!

เส้นทางการทำงานของนายมาริษ เป็นลูกหม้อกระทรวงการต่างประเทศขนานแท้

ผ่านงาน กรมองค์การระหว่างประเทศ กรมสารนิเทศ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

เคยเป็นทูตในหลายประเทศ ผ่านงานมารอบโลก

เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำเครือรัฐออสเตรเลีย เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐฟิจิ เอกอัครราชทูตกรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล และเอกอัครราชทูตไทยประจำ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา

นอกจากนี้ ยังเป็นข้าราชการที่ไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลสมัยนายทักษิณ ชินวัตร

ดังนั้นจึงรอบรู้ทั้งงานของกระทรวงการต่างประเทศและงานทางการเมือง

มองในเรื่องความสัมพันธ์กับข้าราชการในกระทรวง จึงไม่มีปัญหา รู้จักมักคุ้นกันดี

ส่วนในเรื่องการทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถือว่าเรียนรู้มาไม่น้อย

ในยุคที่นายเศรษฐาเป็นนายกฯ ก็เป็นที่ปรึกษาของนายปานปรีย์ เดินทางร่วมคณะไปต่างประเทศกับนายกฯ เศรษฐาอยู่ตลอด

เท่ากับว่าการตั้งนายมาริษมาเป็นรัฐมนตรีบัวแก้ว ตั้งแล้วทำงานได้เลย

เดินเครื่องได้เลย

โดยอายุอานาม ถือว่ายังทำงานได้กระฉับกระเฉง

หากใครได้เคยสนทนา จะรู้ว่าวิสัยทัศน์ แนวคิด รอบรู้โลกกว้างเป็นอย่างมาก

สรุปแล้วเมื่อนายปานปรีย์ไป ก็ได้อดีตทูตมาริษมาแทนอย่างฉับไว

ครม.เศรษฐา 1/1 ต้องเดินหน้าต่อไป ไม่ต้องรอช้าเสียเวลาอะไรอีก!!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน