หลังจากนายกรัฐมนตรีประกาศนโยบายกวาดล้างยาเสพติดในจังหวัดเป้าหมายให้ได้ผลภายใน 3 เดือน เท่ากับเส้นตายคือ 30 กันยายน ต้องเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ยาเสพติดต้องหดหาย ผู้เสพต้องได้รับการบำบัดเพื่อกลับมาเป็นคนปกติ

จากนั้นเราได้เห็นนายกฯ เศรษฐา เกาะติดการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง!

วันศุกร์ที่ผ่านมา เช้าบินด่วนไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ชลบุรี ดูผลงานตรวจยึดสารโทลูอีน สารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด

ตรวจพบใน 6 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 90 ตัน

นำไปผลิตยาไอซ์ได้ 4,500 กิโลกรัม ยาบ้า 270 ล้านเม็ด และโคเคน 4,500 กิโลกรัม

จะกลายเป็นยาเสพติดมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท!!

นายกฯ เศรษฐา ยกย่องการทำงานของกรมศุลกากร กรมอุตสาหกรรมโรงงาน ตำรวจและ ป.ป.ส. ที่ร่วมมือกันในผลงานใหญ่ครั้งนี้

แม้เส้นทางการลอบส่งสารตั้งต้นนี้จะยอกย้อน ก็สามารถสืบจับจนได้

โดยต้นทางมาจากเมืองปูซาน เกาหลีใต้ มาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง นำผ่านประเทศไทย และออกที่ศุลกากรแม่สอด จ.ตาก

ปลายทางคือ ย่างกุ้ง เมียนมา

นายกฯ ย้ำว่า นี่เป็นการสกัดกั้นยาเสพติด ซึ่งเมื่อผลิตแล้ว จะย้อนกลับมาเป็นวังวนอุบาทว์ต่อคนไทยและคนทั่วโลก!

เสร็จจากตรวจผลงานสกัดกั้นสารตั้งต้นยาเสพติดที่แหลมฉบังแล้ว จากนั้นตอนเย็นวันเดียวกันเดินทางไปยังเชียงราย

ไปตรวจผลงานของตชด.และตำรวจเชียงราย

ตรวจยึดยาบ้าในป่าได้ 3 ล้านเม็ด รถยนต์ 3 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน

โดยนายกฯ ชื่นชมผลงาน เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล เร่งกวาดล้างยาเสพติดให้เห็นผลเด็ดขาด!

พร้อมกับรับปากสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด่านหน้าเชียงราย

ได้แก่ สร้างด่านตรวจยาเสพติดถาวรจำนวน 3 ด่าน เนื่องจากมีการตัดถนนเส้นใหม่

รถเอกซเรย์ยาเสพติด รถขับเคลื่อน 4 ล้อ โดรน รวมถึงกล้องไนท์วิชั่นสำหรับทำงานในเวลากลางคืน ซึ่งจะช่วยเรื่องสวัสดิภาพของตำรวจ

เอาเป็นว่า งานนี้นายกฯ เศรษฐา ไม่ได้สั่งเล่นๆ เพราะติดตามงานจริงจัง เดินสายลงไปดูถึงพื้นที่และสนับสนุนให้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก

ดังนั้นจังหวัดเป้าหมาย อย่าลืมว่ามีเวลาเร่งงานปราบยาเสพติดอีก 2 เดือนเศษ

สำคัญที่สุด 2 จังหวัดนำร่อง คือน่านและร้อยเอ็ด ต้องเป็นจังหวัดสีขาวให้ได้!!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน