ประเด็นการเพิกถอนพื้นที่อุทยานทับลาน 2.6 แสนไร่ ซึ่งนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานฯ มีบทบาทสำคัญในการปลุกกระแสสังคม ให้ปกป้องทับลาน คัดค้านการเพิกถอนพื้นที่อุทยาน
แต่ขณะเดียวกัน ได้เกิดข้อถกเถียงตามมาหลายหัวข้อ ต่อแนวคิดการปกป้องอุทยาน เช่น มาตรการแข็งกร้าวของเจ้าหน้าที่อุทยานที่มีต่อชาวบ้านและชุมชนดั้งเดิมต่างๆ
ลามไปถึงการถกเถียงคดีบิลลี่หรือนายพอละจี รักจงเจริญ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย แก่งกระจาน เพชรบุรี!
คดีบิลลี่ เป็นเหตุให้นายชัยวัฒน์ในฐานะอดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน เคยตกเป็นจำเลยถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมบิลลี่ รวมทั้งอีกหลายข้อหา
ศาลมีคำพิพากษาเมื่อกันยายนปีที่แล้ว ยกฟ้องในข้อหาฆ่า แต่ให้จำคุก 3 ปี ในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ กรณีจับกุมบิลลี่พร้อมน้ำผึ้งป่า แล้วไม่ส่งตำรวจตามขั้นตอนกฎหมาย
ยกฟ้องข้อหาฆ่า เพราะผลดีเอ็นเอชิ้นส่วนกระดูกขมับข้างซ้ายของวัตถุพยานที่พบใต้น้ำเขื่อนแก่งกระจาน ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของบิลลี่ ทำให้ไม่ครบองค์ประกอบความผิด!!
ในชั้นนี้เท่ากับนายชัยวัฒน์เป็นผู้บริสุทธิ์ในข้อหาฆ่า
แต่ศาลเห็นว่าผิดจริงในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เพราะนายชัยวัฒน์กับลูกน้องควบคุมตัวบิลลี่ไว้อ้างว่ามีน้ำผึ้งป่าครอบครอง นำตัวบิลลี่ขึ้นรถไปแต่ไม่ได้ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ประเด็นนี้นายชัยวัฒน์ให้สัมภาษณ์ยอมรับหลายหนว่า มีการเอาตัวบิลลี่ไปจริง แต่จากนั้นก็ปล่อยตัวกลับไปแล้ว ส่วนจะหายไปไหน ตนเองไม่ทราบและไม่เกี่ยว!?
วันนั้นคือ 17 เมษายน 2557 ผ่านมา 10 ปีแล้ว สันนิษฐานเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า เสียชีวิตแล้ว เพราะบิลลี่เป็นชาวชาติพันธุ์มีชีวิตอยู่ติดกับครอบครัว ไม่มีทางหนีหายไปเอง
จุดสำคัญที่ตำรวจเคยสืบสวนและต่อมาดีเอสไอมาทำคดี ไม่เคยพบร่องรอยพยานหลักฐานว่า บิลลี่เดินทางออกจากอุทยานแก่งกระจานในวันนั้น ตอนไหน ไปทางไหน!?!
จนกระทั่งในปี 2562 ดีเอสไอตรวจพบถังน้ำมัน 200 ลิตร จมน้ำใต้สะพานแขวนเหนืออ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน
ในถังมีเศษกระดูกและชิ้นส่วนของกะโหลก เมื่อตรวจสอบพบดีเอ็นเอตรงกับแม่ของบิลลี่ จึงอนุมานว่าเป็นกระดูกของบิลลี่ เนื่องจากลูกๆ ที่หายไปมีแค่บิลลี่คนเดียว
แต่ผลการตรวจชิ้นส่วนกระดูกที่แช่น้ำมา 5 ปีแล้ว ทำให้ยากในการพิสูจน์แบบเป๊ะๆ
เป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องนายชัยวัฒน์ในข้อหาฆ่า เพราะผลดีเอ็นพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นชิ้นส่วนของบิลลี่โดยตรง!
เป็นไปตามหลักกฎหมายของไทย ถ้าหาชิ้นส่วนหรือศพมายืนยันไม่ได้ว่าเหยื่อตายแล้ว ก็ไม่ครบองค์ประกอบในข้อหาฆ่า
ขณะที่การสืบสวนของดีเอสไอนั้น เชื่อว่า บิลลี่โดนทำลายศพ น่าจะโดนเผาป่นในถัง 200 ลิตรไปแล้ว
ประสบการณ์สืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ พบว่ากระบวนการทำลายศพไม่ให้เหลือพิสูจน์ได้ มักทำกันเสมอๆ ในหมู่ผู้รอบรู้และช่ำชอง
แต่เอาเป็นว่า นายชัยวัฒน์พ้นข้อหาไปแล้ว แต่เมื่อเรื่องทับลานดัง เรื่องคดีบิลลี่ก็ตามมา
เพราะต้นเรื่องก็มาจากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจาน ในการไปเอาชาวกะเหรี่ยงออกจากป่า ด้วยมาตรการปกป้องป่าอย่างแข็งกร้าว
แล้วบิลลี่คือผู้ที่เก็บพยานหลักฐานการเผาทำลายบ้าน ยุ้งฉางต่างๆ นั่นเอง!!
วงค์ ตาวัน
