เมื่อ 2 วันที่แล้ว มีสัญญาณการโหมปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลไทยอีกรอบ โดยมีการต่อสายพูดคุยกันระหว่างนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ของไทย และนายกฯ ฮุน มาเนต ของกัมพูชา
โดยนายกฯ เศรษฐาเปิดเผยว่า ได้โทรศัพท์หารือกับท่านนายกฯ ฮุน มาเนต ในประเด็นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีความเห็นตรงกันที่จะปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง!
จากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของทั้งสองประเทศ จะร่วมกันหาแนวทางและปราบปรามให้เห็นภายใน 60 วัน
รวมทั้งบอกด้วยว่า พร้อมจะบินไปกัมพูชาเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ชาวบ้านได้ยินเรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็คงโล่งอก เพราะเป็นอีกภัยคุกคามที่รุนแรง บุกมาถึงตัว ถึงในบ้าน ผ่านทางมือถือ
นอกจากปัญหาปากท้อง ปัญหายาบ้า ก็ปัญหามิจฉาชีพไซเบอร์นี่แหละ ที่ชาวบ้านบ่นกันมากที่สุด!!
ก่อนหน้านี้ นายกฯ เศรษฐามอบนโยบายให้ทั้งกสทช. และตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ เร่งดำเนินการอย่างหนัก
มีการระดมล้มเสาอินเตอร์เน็ตตามแนวชายแดน โดยพบว่าผู้บริการในบ้านเราเอง ไปตั้งเสาสัญญาณหันหน้าไปทางฝั่งเพื่อนบ้าน หรือลากสายฝังดินข้ามแดนไป
เพื่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งสำนักงานกันอยู่ฝั่งเพื่อนบ้าน ใกล้ชายแดนเรา ดึงสัญญาณไวไฟไปใช้ เพื่อโทร.มาล่อลวงดูดเงินจากคนไทยเรา
กสทช.ร่วมกับตำรวจ ระดมตรวจยึดและล้มเสาสัญญาณเหล่านี้จำนวนมาก ตัดเครือข่ายของเหล่ามิจฉาชีพอย่างได้ผลไม่น้อย
ความที่กสทช. โดยพล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นตำรวจเก่า รอบรู้งานสืบสวนสอบสวน ประสานกับตำรวจ ลุยปราบแก๊งโจรไซเบอร์อย่างต่อเนื่องจริงจัง!!
เมื่อรับนโยบายจากนายกฯ เศรษฐา เร่งจัดการทั้งซิมผีและเสาเถื่อน
มาตรการสำคัญล่าสุด คือ ประกาศให้ผู้ครอบครองซิมการ์ด มือถือ ตั้งแต่ 6 จนถึง 100 หมายเลข ให้มายืนยันตัวตนภายใน 13 กรกฎาคม และผู้ถือครองซิม 101 หมายเลขขึ้นไป ให้มาแสดงตัวภายใน 14 กุมภาพันธ์
ถ้าไม่มายืนยัน จะโดนระงับใช้ทั้งหมด
เมื่อครบกำหนด ทำให้มีการยกเลิกซิมเหล่านี้ไปแล้วทั้งสิ้น กว่า 2 ล้านหมายเลข!
ทั้งยังมีมาตรการสะสางเบอร์โมบายแบงกิ้ง โดยเจ้าของบัญชีธนาคารกับเบอร์ซิมการ์ดต้องเป็นคนคนเดียวกัน หากไม่ตรงและไม่มาชี้แจง ก็ต้องระงับโมบายแบงกิ้งนั้นๆ
เดินหน้ากันทุกวิถีทาง ตัดทุกช่องของเหล่ามิจฉาชีพ ทั้งล้มเสาอินเตอร์เน็ต ทั้งกวาดล้างซิมผี ทั้งบัญชีม้าโมบายแบงกิ้ง
รวมทั้งที่นายกฯ เศรษฐาประสานตรงไปยังผู้นำกัมพูชา เพื่อร่วมกันกวาดล้างแก๊งคอลฯตามแนวชายแดน
สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ลดการหลอกลวงล้วงเงินจากบัญชีของประชาชนให้เบาบางลงไป
อาจจะไม่ถึงที่สุด เพราะโจรไซเบอร์ก็พลิกแพลงดิ้นรนต่อไป อย่างเช่น ตอนนี้ก็หันไปใช้สัญญาณเน็ตดาวเทียมแทน
แต่เราก็ต้องปราบปรามไม่ให้อาชญากรไซเบอร์เติบโตลอยนวล จนถึงขั้นสูญพันธุ์ให้ได้!!
วงค์ ตาวัน
