ศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้ มีประเด็นใหญ่ๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง เป็นการโหมโรงอย่างร้อนแรง น่าจับตามอง
ขณะที่คนไทยเราให้ความสนใจกับการเลือกตั้งผู้นำมะกันครั้งนี้พิเศษ เพราะหมายถึงสงครามที่สร้างความวุ่นวาย เศรษฐกิจทรุดไปทั่ว จะคลี่คลายหรือไม่!?
ที่ว่าโหมโรงร้อนแรง ไม่ว่าจะการลอบยิงนายโดนัลด์ ทรัมป์ จนหูทะลุ และล่าสุดนายโจ ไบเดน ประกาศถอนตัว ไม่ลงป้องกันตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว
เพราะแรงกดดันจากรอบด้าน รวมทั้งภายในพรรคของตัวเอง ที่เห็นชัดว่าไบเดนสู้ไม่ไหวแน่ๆ ด้วยวัย 81 ปี เริ่มหมดสภาพ พูดจาผิดๆ ถูกๆ จนน่าห่วง
ยิ่งเกิดเหตุทรัมป์โดนลอบยิง ยิ่งทำให้ได้คะแนนพุ่งกระฉูด แบบนี้แล้วไบเดนต้องยอมแพ้ยอมถอย เพื่อให้พรรคเปลี่ยนคนใหม่ลงสู้ดีกว่า
แต่จุดสำคัญที่คะแนนตกรูด น่าจะมาจากกระแสชาวอเมริกันที่เบื่อหน่ายนโยบายในยุคไบเดน จากการแทรกแซงและก่อสงครามในหลายพื้นที่ จนเศรษฐกิจพังไปทั่ว!
ทั้งนี้เป็นข้อมูลจากสื่อต่างประเทศ รวมทั้งจากข้อมูลที่หน่วยงานไทยเราเองรวบรวม
ส่วนใหญ่เห็นว่า ถ้าเปลี่ยนประธานาธิบดีเป็นทรัมป์ นโยบายต่างประเทศก็จะเปลี่ยน ทำให้หลายอย่างคลี่คลาย
โดยเฉพาะสงครามรัสเซียกับยูเครน สงครามอิสราเอล มาจนถึงสงครามในพม่าด้วย!
นโยบายอเมริกันเฟิร์สต์ อเมริกาต้องมาก่อน ของทรัมป์ ในด้านหนึ่ง จะส่งผลให้ลดการเข้าแทรกแซงในหลายๆ ความขัดแย้ง
สหรัฐคงถอยกลับมาดูผลประโยชน์ของตัวเอง มากกว่าจะไปทุ่มการสนับสนุนและแทรกแซงศึกสงครามต่างๆ
นั่นเป็นมุมมองของผู้รอบรู้ด้านจีโอโพลิติก มุมมองต่อผลกระทบความขัดแย้งทางการเมืองระดับโลก
เพราะหลัง “สงครามโรค” จากมหาภัยโควิด ที่ทำให้เศรษฐกิจต้องหยุดนิ่งทั้งโลก
มาต่อด้วยสงครามเขย่าไปทั่วโลก รัสเซียกับยูเครน ยืดเยื้อมาจนบัดนี้
ยังไม่มีใครแพ้ใครชนะ ก็เลยพินาศไปเรื่อย กระทบเศรษฐกิจวงกว้าง
แม้แต่ในพม่า สงครามโค่นล้มรัฐบาลทหารพม่า กลายเป็นสงครามที่สหรัฐ จีน รัสเซีย เข้ามาร่วมวง ก็เลยไม่เห็นจุดจบ!?!
ประเทศไทยที่มีพรมแดนติดกับพม่ายาวเหยียดได้รับผลเต็มๆ
ทั้งการค้าชายแดนชะงัก ขณะที่ของเถื่อนต่างๆ ยิ่งทะลัก
หนักสุดคือยาเสพติด ยิ่งมีสงครามยิ่งผลิตยา แล้วก็ส่งมาหารายได้ในบ้านเรา
คนไทยก็เลยสนใจการเลือกตั้งผู้นำมะกัน จะทำให้สงครามยูเครนจนถึงพม่าสงบได้หรือไม่
โลกสัมพันธ์กระทบถึงกันหมด เกี่ยวพันไปถึงเศรษฐกิจปากท้อง!
วงค์ ตาวัน
