คดีในลักษณะมือปืนรับจ้างรับงานสังหารเหยื่อกลางกรุง แทบจะไม่ค่อยมีข่าวมีคดีให้ได้เห็นกันมานานแล้ว เพราะบรรดานักเลงมือปืนทั้งหลาย ตอนหลังไปหากินกับธุรกิจผิดกฎหมายที่มีรายได้สูงกว่า อย่างเช่น ค้ายาเสพติด การพนันออนไลน์ อะไรเหล่านี้
มาล่าสุดเกิดเหตุมือปืนยิงคนตายกลางเมืองหลวง โดยสังหารเหยื่อระดับการเมืองข้ามชาติเสียด้วย
เหยื่อกระสุน คือ นายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิตบริเวณเกาะกลางถนน ฝั่งตรงข้ามวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
น่าสนใจว่า ตำรวจนครบาลยุคพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็วสุดๆ
เพียงวันเดียวรู้ตัวคนก่อเหตุทันที พ.จ.อ.เอกลักษณ์ แพน้อย หรือ จ่าเอ็ม เคยรับราชการเป็นทหารเรือ แต่ กองทัพเรือสั่งให้ออกจากราชการไปแล้ว เพราะทำผิดวินัยร้ายแรง
รู้ตัวมือปืนได้เร็วขนาดนี้ ต้องยกนิ้วให้กับประสิทธิภาพงานสืบสวนของนครบาล ไปจนถึงประสิทธิภาพของกล้องวงจรปิดที่เก็บภาพได้ครบถ้วนทั่วเมืองกรุง!
ประเด็นสำคัญคือ ตำรวจสอบสวนพยานบริเวณที่เกิดเหตุ จนได้รูปพรรณสัณฐานครบถ้วน รวมทั้งกล้องวงจรปิดย่านนั้น
จากนั้นสามารถไล่กล้องต่อเนื่องไปจนถึงจุดที่มือปืนจอดรถเพื่อนำเสื้อวินมอเตอร์ไซค์มาสวมใส่
เพราะมือปืนประกอบอาชีพเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างย่านสุขุมวิท!
พอเห็นเสื้อวิน เห็นเบอร์เสื้อ ตำรวจสามารถตามไปถึงวินจยย.ได้ทันที ได้ชื่อได้รายละเอียดครบถ้วน
สามารถออกหมายจับจ่าเอ็มได้ภายในวันเดียว!!
รู้ตัวมือปืนไม่พอ ตอนนี้สาวไปถึงคนที่เป็นผู้ประกบเหยื่อและชี้เป้า
สาวต่อถึงคนที่ร่วมขบวนรายอื่นๆ ได้ทะลุปรุโปร่ง
ความที่คนตายเป็นนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับผู้มีอำนาจในกัมพูชา จึงเป็นข่าวใหญ่ที่ทั่วโลกจับตา
ดังนั้นฝีมือของตำรวจสืบสวนนครบาลยุคพล.ต.ท.สยาม พอจะช่วยกู้หน้าประเทศไทยได้!
ไม่เช่นนั้นคงโดนโจมตี เป็นเมืองที่หละหลวมปล่อยให้เกิดการสังหารกันกลางเมืองกรุงง่ายๆ
เมื่อสืบสวนได้รวดเร็ว ให้คำตอบได้เร็ว
บ่งบอกประสิทธิภาพของตำรวจ เร่งแกะรอยสืบหาตัวได้ฉับไว รวมทั้งเครือข่ายเทคโนโลยีกล้องวงจรปิด สอดส่องได้ทั่วทุกมุมเมือง มีความครบพร้อม
พอจะคุยได้ว่า ใครทำอะไรในกทม. อย่าคิดจะหนีหายลอยนวลไม่ได้ง่ายๆ
อย่าได้มาก่ออาชญากรรมอะไรกันเช่นนี้อีก ทำนองนั้น
จากนี้ไปก็ต้องรอดูว่า จะจับตัวมาสอบสวน หาเบื้องหน้าเบื้องหลัง หาคนออกใบสั่งฆ่าได้หรือไม่!?
วงค์ ตาวัน
