เริ่มเดินเครื่องแล้ว สำหรับโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือสถานบันเทิงครบวงจร หลังจากครม.ให้ความเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา
ที่นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร แถลงนโยบายเอาไว้ถึง “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในประเทศไทย” ก็คือนี่แหละ
โดยจะเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ที่รัฐบาลคาดหวังว่า จะปลุกเศรษฐกิจอย่างขนานใหญ่
อาจจะมีการเรียกกันสับสนถึงโครงการนี้ว่า เป็นกาสิโนถูกกฎหมาย แต่ความจริงกาสิโนจะเป็นเพียงส่วนหนึ่ง
กาสิโนไม่ใช่หัวใจของโครงการนี้
โครงการนี้ก็คือการเปิดเขตพัฒนาพิเศษขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของครอบครัวในระดับโลก!
ที่รัฐบาลคุยเอาไว้สำหรับโครงการนี้ ยืนยันว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาแบบต่อเนื่องตลอดปี
สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงท่องเที่ยวโลว์ซีซั่นได้
มีการตั้งตัวเลขไว้ว่า จะเกิดการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ทำรายได้การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาทไปถึงกว่า 2 แสนล้านบาท!
จะสร้างรายได้เข้ารัฐ โดยเก็บภาษีได้ 1.2 หมื่นล้านบาท ไปจนถึง 3.9 หมื่นล้านบาท
ส่วนกาสิโนนั้น รัฐมีรายได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตภาษี ราว 3 พันล้านบาทต่อปี จากค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโนอีกกว่า 3 พันล้านบาท
ดังนั้นการพูดถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หมายถึงการลงทุนในระดับแสนล้านบาท สร้างรายได้ระดับหลายแสนล้านบาท มีเงินภาษีเข้ารัฐนับหมื่นล้านบาท
เทียบกับกาสิโนถูกกฎหมาย เป็นการสร้างรายได้ระดับพันล้านบาท
รัฐบาลจึงเน้นว่า กาสิโนเป็นเพียงส่วนหนึ่งในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
เพราะโครงการนี้จะต้องสร้างรายได้ในระดับแสนล้านบาท จึงจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตเป็นจริงเป็นจัง!
ขณะที่องค์ประกอบของสถาบันเทิงครบวงจร ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า สถานจัดงานประชุมใหญ่ โรงแรมระดับ 6 ดาว พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้าโอท็อป สวนสนุก สนามกีฬา ร้านอาหาร ไนต์คลับ ผับ บาร์ โดยมีกาสิโนเป็นส่วนหนึ่ง
แน่นอนว่า ธุรกิจใต้ดินทั้งหลาย สมควรยกขึ้นมาอยู่บนดิน เพื่อให้รัฐควบคุมเก็บภาษี
กาสิโนถูกกฎหมายจึงถึงเวลาต้องทำ
แต่ทำทั้งที ต้องระดับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงเป็นเรื่องเป็นราวกว่า
จากนี้จะต้องเดินต่อไปตามขั้นตอนต่างๆ กว่าจะสำเร็จเสร็จสิ้นต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่
คงนำมาซึ่งข้อถกเถียงของคนที่ค้านและคนที่หนุน เพื่อให้คนในสังคมได้รับฟังและชั่งน้ำหนัก!?!
วงค์ ตาวัน